อัยการเพชรสั่งฟ้อง “หมอสุพัฒน์-2 บุตรชาย” ข้อหาร่วมกันฆ่าแรงงานชาวพม่า

เพชรบุรี -อัยการจังหวัดเพชรบุรี สั่งฟ้อง 2 คดี "หมอสุพัฒน์" และ "2 บุตรชาย" ข้อหารวมกันฆ่าแรงงานชาวพม่า และข้อหาค้ามนุษย์ ขณะที่บุตรชายทั้ง 2 เข้ารับฟังคำสั่งฟ้องที่ศาลจังหวัดพร้อมยื่นประกันตัว 2 คนรวมหลักทรัพย์ 1 ล้านบาท

เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (31 ม.ค.) ที่สำนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรี อ.เมือง จ.เพชรบุรี นายวรวิทย์ สัมพัฒนวรชัย อัยการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าผลการพิจารณาสำนวนคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี นำสำนวนสรุปความเห็นสั่งฟ้อง พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อดีตอายุรแพทย์ รพ.ตำรวจ พร้อมด้วยนายเอก และนายอัคร เลาหะวัฒนะ บุตรชายทั้ง 2 คน คดีอาญาที่ 140/2555 ข้อหาฆ่าและพยายามฆ่า ปิดบังอำพรางซ้อนเร้นศพ

นอกจากนี้ ยังมีคดีอาญาที่ 136/2555 และ 137/2555 ของ สภ.ท่าไม้รวก ฐานความผิดมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, มีอาวุธและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดที่ ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี และค้ามนุษย์, รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต, รู้ว่าเป็นคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้พักพิง อาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้บุคคลต่างด้าวพ้นจากการจับกุม ของ สภ.ท่าไม้รวก เหตุเกิดที่ ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี

โดยสรุปว่า วันนี้ ทางสำนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรี ได้ยื่นฟ้อง พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ และพวกรวม 2 คดี โดยคดีแรกยื่นฟ้อง พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ และลูกชาย 2 คน ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

ส่วนอีกสำนวนยื่นฟ้อง พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เพียงคนเดียวในข้อหาค้ามนุษย์ ช่วยเหลือซ่อนเร้นคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นการจับกุม และรับคนต่างด้าวซึ่งไม่มีใบรับอนุญาตเข้าทำงานโดยผิดกฎหมาย รวมเป็น 2 สำนวน

ส่วนคำสั่งที่ไม่ฟ้องในคดีแรกที่พนักงานสอบกล่าวหา พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ และลูกชาย 2 คนนั้น ทางอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาซ่อนเร้นอำพรางศพก่อนจะมีการชันสูตรพลิกศพ เรื่องนี้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไปจึงสั่งไม่ฟ้อง นั่นคือกรณีของนายซอแลเง หรือนายโหย่ง หรือโย่ง แรงงานชาวพม่า ส่วนกรณีคนแรกที่ฟ้องคือ กรณีที่ร่วมกันฆ่านายต้า หรืออีต้า แรงงานชาวพม่า

นายวรวิทย์ กล่าวต่อว่า ส่วนขั้นตอนไปเป็นขั้นตอนของศาลที่จะนัดสอบสวนจำเลยทั้ง 2 คดี คดีแรก 2 คน ส่วนคดีที่ 2 พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เพียงคนเดียว ซึ่งจะต้องนัดสอบให้การว่าจำเลยว่าจะให้การอย่างไร จะรับสารภาพ หรือปฏิเสธ หลังจากที่มีการสอบให้การแล้ว ถ้ามีการปฏิเสธศาลก็คงจะนัดฟ้องทั้งฝ่ายโจทก์ และจำเลยเพื่อพิจารณาสิทธิในการสืบสวน ต่อไปยังคงเหลืออีก 1 คดี คือ คดีมีอาวุธปืนและมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ไรับอนุญาต เนื่องจากมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ โดยคดีหลังสุดยังไม่ได้มีการฝากขัง ส่วนที่มีการฝากขัง พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ อยู่ขณะนี้คือ คดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ซึ่งยังมีตัว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ อยู่ในสำนวนที่เราฟ้องไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายว่่าช่วงบ่ายวันเดียวกันที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี นายเอก และนายอัคร บุตรชาย พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ได้เดินทางมาเพื่อรับฟังคำสั่งฟ้องในข้อข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา กรณีร่วมกันฆ่านายต้า หรืออีต้า แรงงานชาวพม่า ที่ถูกฆ่าและฝังศพไว้ในไร่ของ พ.ต.ท.นพ.สุพัฒน์ พื้นที่ ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เมื่อหลายปีที่ผ่านมา โดยมีนายพรเทพ สุวรรณวิเชียร ทีมทนายความ น.ส.วิลสา จันทรบัญชร และ น.ส.ศิวรยา ณ สงขลา ภรรยาที่ 3 และ 4 ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ติดตามมาด้วยพร้อมกับทีมทนายความเพื่อขอยื่นประกันตัวนายเอก และนายโอ้ค โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัวไปด้วยวงเงินคนละ 500,000 บาท รวมเป็น 1,000,000 บาท

โดยนายพรเทพ สุวรรณวิเชียร ทนายความ เปิดเผยว่า สำหรับกรณีดังกล่าวศาลอนุญาตให้ประกันตัวไปตามวงเงินที่กำหนดคนละ 500,000 บาท โดยยื่นหลักทรัพย์ประกันเป็นสลากออมสิน ส่วนเรื่องคดีนั้นไม่ขอพูดโดยจะมีการนัดสอบคำให้การต่อไป