จันทบุรี- ฝนที่ตกลงมาในระยะนี้ส่งผลดีต่อเกษตรกรชาวสวนในพื้นที่จันทบุรี แต่สถานการณ์ปัญหาภัยแล้งยังไม่คลี่คลาย ชาวบ้านต้องการฝนหลวงเข้ามาช่วยเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายด้านเกษตรกรรม
วันนี้ (28 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สวนผลไม้ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีเพื่อไปสำรวจความคิดเห็นของเกษตรกรชาวสวนผลไม้ จากกรณีในระยะ 1-2 วันที่ผ่านมาได้มีปริมาณฝนตกลงมาทำให้สถานการณ์ภัยแล้งดีขึ้นบางเล็กน้อย เกษตรกรชาวสวนไม่ต้องเสียเวลาในการสูบน้ำรดสวนผลไม้ รวมทั้งยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่ต้องไปซื้อน้ำมาเติมในสระเก็บกักน้ำ แต่สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดจันทบุรียังไม่ถือว่าคลี่คลาย
ทั้งนี้ เกษตรกรชาวสวน เกษตรกรผู้ปลูกข้าว และชาวบ้านยังมีความต้องการอยากจะได้ฝนหลวงเข้ามาช่วยเพื่อให้เกิดฝนตกในพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้งทั้ง 7 อำเภอ คือ อำเภอขลุง มะขาม เขาคิชฌกูฏ โป่งน้ำร้อน สอยดาว แก่งหางแมว และอำเภอท่าใหม่ ที่ในปัจจุบันประสบปัญหาภัยแล้งวิกฤตอย่างหนัก ปริมาณน้ำที่เคยมีอยู่ในอ่างเก็บกักน้ำ เขื่อน ฝาย และคลองธรรมชาติเริ่มมีปริมาณน้ำลดลง หรือบางแห่งแห้งขอดเห็นสันดอนทราย
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาแม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่น และจังหวัด จะมีการวางแผนและลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือเกษตรกร และชาวบ้าน แต่ยังพบว่าปัญหาภัยแล้งในปีนี้มาเร็วกว่าทุกปี และแล้งมากกว่าทุกปีที่ผ่านมาด้วย ปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นกับจังหวัดจันทบุรีทุกปีนั้นมาจากสาเหตุพื้นที่จังหวัดจันทบุรีไม่มีอ่างเก็บกักน้ำขนาดใหญ่เหมือนจังหวัดอื่นๆ
ประกอบกับพื้นที่จังหวัดจันทบุรีเป็นเมืองผลไม้ที่มีการเพาะปลูกผลไม้เป็นส่วนใหญ่ เวลาเกิดภัยแล้งจึงพบปัญหาเกษตรกร และชาวบ้านแย่งน้ำที่จะสูบเข้าสวน ประกอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ และไม่มีการวางแผนล่วงหน้า ทำให้จังหวัดจันทบุรีเกิดปัญหาภัยแล้งซ้ำซากทุกปี
นายหลวย โคทะโน อายุ 69 ปี เกษตรกรชาวสวนคนหนึ่ง กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาน้ำไม่เพียงพอในการนำมาดูแลสวนผลไม้ แหล่งน้ำที่เก็บกักไว้ก็เหลือไม่พอแล้งในปีนี้ อยากได้ฝนหลวงเข้ามาช่วยเหลือเพื่อไม่ต้องการให้ผลผลิตที่กำลังติดดอกออกผลได้รับความเสียหาย