อ่างทอง - สลดผู้เฒ่าวัย 91 ปีเมืองอ่างทอง ถูกรถพ่วงชนดับหลังเดินออกกำลังกายริมถนนในตอนเช้าทุกวัน
เมื่อเวลา 05.50 น.วันนี้ (26 ม.ค.) ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ จันทร์ศรี ร้อยเวร สภ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ได้รับแจ้งเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ชนคนเดินเท้าเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายอ่างทอง-อยุธยา ใกล้กับวัดพินิจธรรมสาร หมู่ 5 ต.บางเสด็จ อ.ป่าโมก หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลป่าโมก
ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียนตัวแม่ บม 709230 สระบุรี ตัวลูก บม 709231 สระบุรี จอดอยู่บนไหล่ทางข้างโรงงานผลิตอิฐดินเผา โดยมีนายอดิศร เลื่อนลอย ชาว จ.เพชรบูรณ์ คนขับรถยืนรอให้การ ในที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตทราบว่าชื่อ นายสมพร คณะเจริญ อายุ 91 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 5 ต.บางเสด็จ อ.ป่าโมก
จากการสอบสวนนายอดิศรในเบื้องต้นทราบว่า ขับรถมาจากบ้านพักใน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อมาบรรทุกทรายไปลงเรือ ขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุสองข้างทางมืดเพราะไม่มีไฟส่องสว่าง ประกอบกับมีหมอกปกคลุมจึงห้ามรถไม่ทัน
ในส่วนของญาติผู้ตายให้การว่า ปกติผู้ตายจะตื่นแต่เช้า และออกจากบ้านไปเดินออกกำลังกายริมถนน และไปพูดคุยกับยามที่โรงงานผลิตอิฐเป็นประจำ ก่อนจะกลับไปกินข้าว และพักผ่อน แม้จะอายุมากแต่ร่างกายแข็งแรง สายตาดี หูได้ยิน ทั้งนี้ ชาวบ้านในตำบลเสียใจที่สูญเสียบุคคลที่มีอายุเกือบ 100 ปี
ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหานายอดิศร ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และให้ประกันตัวไป
เมื่อเวลา 05.50 น.วันนี้ (26 ม.ค.) ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ จันทร์ศรี ร้อยเวร สภ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ได้รับแจ้งเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ชนคนเดินเท้าเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายอ่างทอง-อยุธยา ใกล้กับวัดพินิจธรรมสาร หมู่ 5 ต.บางเสด็จ อ.ป่าโมก หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลป่าโมก
ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียนตัวแม่ บม 709230 สระบุรี ตัวลูก บม 709231 สระบุรี จอดอยู่บนไหล่ทางข้างโรงงานผลิตอิฐดินเผา โดยมีนายอดิศร เลื่อนลอย ชาว จ.เพชรบูรณ์ คนขับรถยืนรอให้การ ในที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตทราบว่าชื่อ นายสมพร คณะเจริญ อายุ 91 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 5 ต.บางเสด็จ อ.ป่าโมก
จากการสอบสวนนายอดิศรในเบื้องต้นทราบว่า ขับรถมาจากบ้านพักใน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อมาบรรทุกทรายไปลงเรือ ขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุสองข้างทางมืดเพราะไม่มีไฟส่องสว่าง ประกอบกับมีหมอกปกคลุมจึงห้ามรถไม่ทัน
ในส่วนของญาติผู้ตายให้การว่า ปกติผู้ตายจะตื่นแต่เช้า และออกจากบ้านไปเดินออกกำลังกายริมถนน และไปพูดคุยกับยามที่โรงงานผลิตอิฐเป็นประจำ ก่อนจะกลับไปกินข้าว และพักผ่อน แม้จะอายุมากแต่ร่างกายแข็งแรง สายตาดี หูได้ยิน ทั้งนี้ ชาวบ้านในตำบลเสียใจที่สูญเสียบุคคลที่มีอายุเกือบ 100 ปี
ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหานายอดิศร ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และให้ประกันตัวไป