ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - พื้นที่อำเภออมก๋อย หนาวยะเยือก อุณหภูมิต่ำสุด 3.5 องศาฯ ชาวบ้านเดือดร้อนทั่วพื้นที่ ขณะที่การแยก 2 ตำบลตั้งอำเภอใหม่ มีการเสนอตั้งชื่อใหม่สุดเก๋เป็น “อำเภอบ้านเล็กในป่าใหญ่” แทนชื่อ “นันทบุรี” หลังถูกนักวิชาการติงพ้องชื่อเดิมเมืองน่าน
นายอดิศร กำเนิดศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกรายการผู้ว่าฯ พบประชาชน ทาง สวท.เชียงใหม่ วันนี้ (13 ม.ค.) แทนผู้ว่าราชการจังหวัดได้กล่าวว่า พื้นที่ทั้งหมดของอมก๋อย ขณะนี้กำลังประสบภัยหนาวอย่างรุนแรง อุณหภูมิวานนี้บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภออยู่ที่ 3.5 องศาเซลเซียส ทางจังหวัดกำลังเร่งเข้าไปช่วยเหลือ ขณะที่มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ก็จัดส่งผ้าห่มกันหนาวเพื่อไปช่วยพื้นที่แม่แจ่ม ซึ่งก็มีอุณหภูมิลดต่ำกว่า 10 องศาฯ เช่นกัน
สำหรับหน่วยงาน สมาคม ชมรม องค์กรต่างๆ จะช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวขณะนี้ติดต่อที่จังหวัดเชียงใหม่/สำนักงาน ปภ.จังหวัด หรือที่ว่าการอำเภอนั้นๆ ได้โดยตรงเพื่อจะกำหนดพื้นที่เข้าไปช่วยโดยไม่ซ้ำซ้อนกัน
และระหว่างที่นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับนางอินทิรา สุภาแสน นายกเหล่ากาชาดฯ จัดงานสังสรรค์ปีใหม่ และขอบคุณสื่อมวลชนที่ร่วมมือในการจัดงานฤดูหนาว และโอทอปของดีเมืองเชียงใหม่ รวมทั้งการออกร้านของเหล่ากาชาด ซึ่งประสบความสำเร็จด้วยดี มีหัวหน้าส่วนราชการ และนายอำเภอพร้อมกับสื่อมวลชนทุกแขนงเข้าร่วมนั้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย โดยประเด็นที่น่าสนใจ คือ การเสนอตั้งอำเภอใหม่ที่ 26 ของจังหวัดเชียงใหม่ แยกตำบลม่อนจอง และแม่ตื่น ของอำเภออมก๋อย ยกฐานะเป็นอำเภอใหม่เพื่อให้บริการประชาชนอย่างใกล้ชิด เพราะพื้นที่ 2 ตำบลห่างจากตัวอำเภอถึง 79 กม.ซึ่ง ดร.เพ็ญสุภา สุคตะ ใจอินทร์ และคณะนักวิชาการประวัติศาสตร์และโบราณคดี ไม่เห็นด้วยที่จะใช้ชื่อ “อำเภอนันทบุรี” เพราะไปพ้องกับชื่อเดิมของจังหวัดน่าน จึงน่าจะใช้ชื่ออื่น หรือชื่อพื้นถิ่นที่มีอยู่ พร้อมกับเสนอชื่ออำเภอ “บ้านเล็กในป่าใหญ่” เพราะในพื้นที่มีโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตั้งอยู่ น่าจะเป็นชื่อที่มีมนต์เสน่ห์
นายธานินทร์ กล่าวว่า ชื่ออำเภอบ้านเล็กในป่าใหญ่ ก็ดูทันสมัย และขลังดี ที่สำคัญเป็นชื่อพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงห่วงใยชาวอมก๋อย ให้จัดตั้งโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชน แต่ชื่อนี้จะเป็นที่ชื่นชอบพอใจของชาวแม่ตื่น และม่อนจองหรือไม่ และชาวเชียงใหม่ทั่วไปจะเห็นอย่างไร ตนอยากให้นำเสนอสู่สาธารณะ เพื่อแสดงความคิดเห็นกันมากๆ ถ้าว่าสมควรก็พร้อมจะนำเสนอไปยังกระทรวงมหาดไทย
นายอดิศร กำเนิดศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกรายการผู้ว่าฯ พบประชาชน ทาง สวท.เชียงใหม่ วันนี้ (13 ม.ค.) แทนผู้ว่าราชการจังหวัดได้กล่าวว่า พื้นที่ทั้งหมดของอมก๋อย ขณะนี้กำลังประสบภัยหนาวอย่างรุนแรง อุณหภูมิวานนี้บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภออยู่ที่ 3.5 องศาเซลเซียส ทางจังหวัดกำลังเร่งเข้าไปช่วยเหลือ ขณะที่มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ก็จัดส่งผ้าห่มกันหนาวเพื่อไปช่วยพื้นที่แม่แจ่ม ซึ่งก็มีอุณหภูมิลดต่ำกว่า 10 องศาฯ เช่นกัน
สำหรับหน่วยงาน สมาคม ชมรม องค์กรต่างๆ จะช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวขณะนี้ติดต่อที่จังหวัดเชียงใหม่/สำนักงาน ปภ.จังหวัด หรือที่ว่าการอำเภอนั้นๆ ได้โดยตรงเพื่อจะกำหนดพื้นที่เข้าไปช่วยโดยไม่ซ้ำซ้อนกัน
และระหว่างที่นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับนางอินทิรา สุภาแสน นายกเหล่ากาชาดฯ จัดงานสังสรรค์ปีใหม่ และขอบคุณสื่อมวลชนที่ร่วมมือในการจัดงานฤดูหนาว และโอทอปของดีเมืองเชียงใหม่ รวมทั้งการออกร้านของเหล่ากาชาด ซึ่งประสบความสำเร็จด้วยดี มีหัวหน้าส่วนราชการ และนายอำเภอพร้อมกับสื่อมวลชนทุกแขนงเข้าร่วมนั้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย โดยประเด็นที่น่าสนใจ คือ การเสนอตั้งอำเภอใหม่ที่ 26 ของจังหวัดเชียงใหม่ แยกตำบลม่อนจอง และแม่ตื่น ของอำเภออมก๋อย ยกฐานะเป็นอำเภอใหม่เพื่อให้บริการประชาชนอย่างใกล้ชิด เพราะพื้นที่ 2 ตำบลห่างจากตัวอำเภอถึง 79 กม.ซึ่ง ดร.เพ็ญสุภา สุคตะ ใจอินทร์ และคณะนักวิชาการประวัติศาสตร์และโบราณคดี ไม่เห็นด้วยที่จะใช้ชื่อ “อำเภอนันทบุรี” เพราะไปพ้องกับชื่อเดิมของจังหวัดน่าน จึงน่าจะใช้ชื่ออื่น หรือชื่อพื้นถิ่นที่มีอยู่ พร้อมกับเสนอชื่ออำเภอ “บ้านเล็กในป่าใหญ่” เพราะในพื้นที่มีโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตั้งอยู่ น่าจะเป็นชื่อที่มีมนต์เสน่ห์
นายธานินทร์ กล่าวว่า ชื่ออำเภอบ้านเล็กในป่าใหญ่ ก็ดูทันสมัย และขลังดี ที่สำคัญเป็นชื่อพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงห่วงใยชาวอมก๋อย ให้จัดตั้งโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชน แต่ชื่อนี้จะเป็นที่ชื่นชอบพอใจของชาวแม่ตื่น และม่อนจองหรือไม่ และชาวเชียงใหม่ทั่วไปจะเห็นอย่างไร ตนอยากให้นำเสนอสู่สาธารณะ เพื่อแสดงความคิดเห็นกันมากๆ ถ้าว่าสมควรก็พร้อมจะนำเสนอไปยังกระทรวงมหาดไทย
