สุรินทร์ - ภาค ปชช. เครือข่ายปกป้องแผ่นดินไทยอีสานใต้ และพันธมิตรฯ บุรีรัมย์-สุรินทร์ รวมตัวหน้า กกล.สุรนารี แสดงพลังค้านศาลโลกคดีปราสาทพระวิหาร จี้ทหารออกมาทำหน้าที่ปกป้องรักษาอธิปไตยไทยร่วมกับ ปชช. พร้อมเร่งผลักดันเขมรพ้นแผ่นดินไทย เขาพระวิหาร 4.6 ตร.กม. และบริเวณปราสาทตาควาย ขณะแก๊งโจกแดงสุรินทร์แค้นแทนเขมรโผล่หัวตอบโต้ทันควัน
วันนี้ (24 ม.ค.) เวลา 12.00 น. ที่บริเวณด้านหน้ากองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ส่วนแยก 2 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดทหารบก (จทบ.) สุรินทร์ ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้มีกลุ่มเครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทย (อีสานใต้-ตะวันออก) และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จ.สุรินทร์ และ จ.บุรีรัมย์ เดินทางด้วยรถยนต์กระบะและรถยนต์เก๋งหลายสิบคันกว่า 30 คน มารวมตัวกันแสดงพลังเรียกร้องให้ทหารทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติไทยบริเวณเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา
พร้อมชูป้ายข้อความคัดค้านอำนาจศาลโลกกรณีคดีปราสาทพระวิหาร เช่น “ประเทศไทยและประชาชนไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก” , “ขอให้ท่านเปาฯ ได้ช่วยกำจัดภัยร้าย ให้แผ่นดินไทยด้วย” , “เครือข่ายคนไทยรักชาติ รักษาแผ่นดินอีสานใต้ ไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ไม่เอา MOU 43 (แผนที่ 1:200,000) ไม่ให้ถอนทหาร” เป็นต้น
นายสนิท ปานทอง ผู้ประสานงานกลุ่มรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทย (อีสานใต้-ตะวันออก) กล่าวว่า ในฐานะภาคประชาชนรู้สึกผิดหวังกับนักการเมืองที่เราได้พิสูจน์ชัดเจนแล้วว่ามีขบวนการที่สมรู้ร่วมคิดเสียแผ่นดินให้เขมร เราหมดที่พึ่งจึงมาหวังพึ่งทหาร ต้องการให้ทหารปกปักรักษาแผ่นดินไทยได้ออกมาทำหน้าที่ร่วมกับภาคประชาชน ซึ่งวันนี้กรรมาธิการทหารได้ลงพื้นที่มาประชุม และมี อ.วีรพันธ์ มาลัยพันธ์ ซึ่งเป็นนักกฎหมายและนักโบราณคดีดูแลเรื่องแนวชายแดน เป็นแนวร่วมของประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดิน เดินทางมาประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการทหารด้วย
“พวกเราต้องการให้ทหารทุกหน่วย ทุกฝ่ายออกมาทำหน้าที่ เพราะว่าภาคการเมืองถือว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิงในการป้องกันประเทศ โดยเฉพาะชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ และชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ที่ปราสาทตาควาย ซึ่งขณะนี้ทหารกัมพูชาได้เข้าครอบครองปรปักษ์แล้ว” นายสนิทกล่าว
ทางด้านนางสำเนียง สุภัณภพ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/7-9 ถนนสันติประชา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กรรมการเครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทย (อีสานใต้-ตะวันออก) กล่าวว่า เรามาวันนี้เพื่อต้องการฟังความชัดเจนจากฝ่ายทหารในเรื่องของเขตแดนไทย-กัมพูชา ที่ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ) ออกมาบอกว่าจะรักษาดินแดนไทยไม่เสียแม้แต่ตารางนิ้วเดียวนั้นไม่ทราบว่าจะทำได้ตามที่พูดหรือไม่ และอยากถามอีกว่า ปัจจุบันมีทหารและประชาชนชาวกัมพูชาบุกรุกแผ่นดินไทยเข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) บริเวณเขาพระวิหาร และพื้นที่ชายแดนตามแผนที่อัตราส่วน 1: 200,000 เหตุใด ผบ.ทบ.จึงไม่ผลักดันชาวกัมพูชาออกไป
“เรามาในวันนี้ในฐานะประชาชนคนไทยที่รักชาติรักแผ่นดิน ไม่ใช่เป็นพวกคลั่งชาติ แต่ไม่อยากให้มีการสูญเสียแผ่นดินของเราแม้แต่ตารางนิ้วเดียว ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการรักษาผืนแผ่นดินไทยไม่ออกมาทำหน้าที่ ประชาชนคนไทยก็จะออกมาแสดงสิทธิและทำหน้าที่แทนอย่างแน่นอน ” นางสำเนียงกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันเดียวกันนี้ ( 24 ม.ค.)เวลา 15.30 น. ที่อนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายเทพพนม นามลี ประธาน นปช.แดงสุรินทร์ พร้อมด้วยแกนนำคนเสื้อจากต่างอำเภอประมาณ 10 คน ได้ถือพวงหรีด มีข้อความว่า “อาลัย แด่ พันธมิตรฯผู้คิดบุกเขาพระวิหาร” ออกมาตอบโต้และประณามการกระทำของกลุ่มเครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทย (อีสานใต้-ตะวันออก)และ กลุ่ม พธม. จ.สุรินทร์-บุรีรัมย์ ที่มารวมตัวกันแสดงพลังคัดค้านศาลโลกกรณีคดีปราสาทพระวิหาร และเรียกร้องให้ทหารออกมาทำหน้าที่ร่วมกับประชาชนในการปกป้องรักษาอธิปไตยไทย ที่ บริเวณหน้าด้านหน้า กกล.สุรนารี ดังกล่าว
นายเทพพนม นามลี ประธาน นปช.แดงสุรินทร์ กล่าวว่า นปช.แดง สุรินทร์เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการยั่วยุ สร้างความขัดแย้งจะนำไปสู่สงคราม ซึ่งเราไม่เห็นด้วย จึงขอไว้อาลัยและขอประณามการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯอีสานใต้ ตนในฐานะแกนนำ นปช.แดงสุรินทร์ จะขอออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านและขับไล่ให้ถึงที่สุด