ม็อบชาวบ้านศรีสะเกษเผาหุ่นขับไล่เวทีชุมนุมต้านศาลโลก

ศรีสะเกษ - ชาวบ้านโศกขามป้อม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชุมนุมเผาหุ่นขับไล่กลุ่มธรรมยาตราให้ไปชุมนุมต้านศาลโลกที่อื่น อ้างหวั่นเกิดสงครามขึ้นมาอีก สุดท้ายสามารถตกลงกันได้ด้วยดี โดยกลุ่มธรรมยาตราฯ ยอมยุติการปราศรัย แต่ยังคงมีการประชุมขับเคลื่อนเรื่องกรณีเขาพระวิหารต่อไป

ช่วงบ่ายวานนี้ (13 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณบ้านโศกขามป้อม ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบริเวณที่กลุ่มธรรมยาตรา และกลุ่มพลังมวลชนจากทั่วประเทศกำลังชุมนุมกันอยู่ เพื่อคัดค้านอำนาจศาลโลกกรณีคดีปราสาทพระวิหาร ปรากฏว่าได้ทำการปิดเวทีปราศรัยแล้ว เนื่องจากเมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. กลุ่มชาวบ้านโศกขามป้อม นำโดยนายทอง จันทร์หอม อายุ 68 ปี ได้นำชาวบ้านจำนวนประมาณ 200 คน มาชุมนุมขับไล่ให้ไปชุมนุมกรณีเขาพระวิหารที่อื่น

โดยมีเขียนป้ายข้อความว่า ชาวบ้านโศกขามป้อมไม่ยอมรับธรรมยาตราออกไป, STOP การชุมนุมอย่ามาใช้พื้นที่บ้านโศกขามป้อม, หยุดเถิดด๊อกผัน ชาวบ้านโศกขามป้อมไม่ยอมรับ และได้มีการเผาหุ่นของสมาชิกกลุ่มธรรมยาตราคนหนึ่งพร้อมทั้งมีการโห่ขับไล่กลุ่มธรรมยาตรา โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อส. จาก อ.กันทรลักษ์ และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ต.ภูผาหมอก นำโดย จ.อ.สมควร สิงห์คำ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อ.กันทรลักษ์ มาคอยรักษาความสงบเรียบร้อย

นายทอง จันทร์หอม อายุ 68 ปี แกนนำชาวบ้านโศกขามป้อมกล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านโศกขามป้อมทุกคนหวั่นเกรงภัยสงครามระหว่างไทยกับกัมพูชาเป็นอย่างมาก เนื่องจากชาวบ้านแห่งนี้เคยได้รับความเดือดร้อนจากการสู้รบเมื่อปี พ.ศ.2554 ที่ผ่านมา ดังนั้น ชาวบ้านจึงไม่ต้องการให้กลุ่มธรรมยาตรามาใช้หมู่บ้านแห่งนี้ในการชุมนุมกรณีเขาพระวิหาร เพราะเกรงจะทำให้เกิดการสู้รบตามแนวชายแดนขึ้นมาอีก ชาวบ้านต้องการอยู่กันอย่างสงบ ไม่อยากมีปัญหากับประเทศกัมพูชา แต่พร้อมที่จะร่วมต่อสู้เพื่อปกป้องดินแดนไทยที่เขาพระวิหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า เพื่อเป็นการคลี่คลายปัญหา จ.อ.สมควร สิงห์คำ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.บึงมะลู ได้เชิญตัวแทนของกลุ่มชาวบ้าน จำนวน 6 คน ประกอบด้วย นายทอง จันทร์หอม นายไพรี พันธ์ศิริ นายสมเพียร พันแก่น นายชอุ่ม ผัดศรี นายคำภี พิไล และนายสงวน ขุมทอง มาประชุมร่วมกับกลุ่มธรรมยาตรา นำโดย นายสมาน ศรีงาม และคณะ โดยประชุมที่บริเวณเวทีปราศรัยของกลุ่มธรรมยาตรา ซึ่งใช้เวลาในการประชุมร่วมกันประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถตกลงกันได้ว่าชาวบ้านพร้อมที่จะร่วมต่อสู้เพื่อรักษาดินแดนไทยที่บริเวณเขาพระวิหารโดยไม่ให้มีการแบ่งสี เพื่อป้องกันความแตกแยก และกลุ่มธรรมยาตราจะยุติการปราศรัยโดยการใช้เครื่องขยายเสียง พร้อมทั้งจะไปชุมนุมเพื่อขับเคลื่อนที่กรุงเทพฯ ต่อไป

นายสมาน ศรีงาม แกนนำกลุ่มธรรมยาตรากล่าวว่า ตนและคณะได้ประชุมร่วมกับแกนนำชาวบ้านแล้ว ซึ่งได้ชี้แจงให้ชาวบ้านทราบว่า หากใช้อนุสัญญาโตเกียว ค.ศ.1941 จะไม่ทำให้ชาวบ้านต้องวิ่งหนีลูกปืนใหญ่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาอีกต่อไป และกรณีที่ชาวบ้านไม่อยากให้มีการแบ่งแยกสีนั้นสีนี้ ตนยืนยันว่าไม่มีสีใด เพราะต้องการสร้างความสามัคคีภายในชาติ และเราต้องการกอบกู้บ้านเมืองที่เสียไปให้ฝรั่งเศสจากการล่าอาณานิคมที่ผ่านมา โดยขอให้พี่น้องประชาชนชาวบ้านโศกขามป้อมทุกคนได้ร่วมลงนามในการที่จะยื่นฟ้องศาลโลก เพื่อให้ใช้อนุสัญญาโตเกียว ค.ศ.1941 ในการแก้ไขปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งทุกอย่างสามารถตกลงกันด้วยดี จึงได้ยุติการจัดเวทีปราศรัยลงในวันนี้ แต่ตนและคณะกลุ่มธรรมยาตรายังคงจะมีการประชุมเพื่อปรึกษาหารือในการขับเคลื่อนเรื่องนี้ที่หมู่บ้านแห่งนี้ต่อไป โดยจะไม่มีการใช้เวทีปราศรัย และเครื่องขยายเสียง จากนั้นจึงจะเดินทางไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะรายงานข่าวยังคงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.บึงมะลู และเจ้าหน้าที่ อส.อ.กันทรลักษ์ รวมทั้งชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน ต.ภูผาหมอก มารักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ เนื่องจากยังไม่ไว้วางใจต่อสถานการณ์ซึ่งอาจเกิดเหตุผิดปกติขึ้นได้ตลอดเวลา