ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เกิดเหตุไฟไหม้บ้านพัก อาสาสมัครตำรวจบ้าน สภ.เมืองนครราชสีมา วอดทั้งหลัง พี่ชายบุกฝ่ากองเพลิงเข้าไปช่วยหลานชายวัย 4 เดือนพร้อมแม่เด็กออกมาได้ปลอดภัยหวิดถูกย่างสด ส่วนตัวเองถูกไฟลวกบาดเจ็บ คาดสาเหตุเกิดจากขั้วแบตเตอรี่ที่ต่อไฟฟ้าช็อตเกิดสะเก็ดไฟลุกลามไหม้บ้านดังกล่าว
ช่วงเช้ามืดวันนี้ ( 24 ม.ค.) ร.ต.อ.กฤษณะชัย ขันอาสา ร้อยเวร สภ.เมืองนครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในชุมชนสองข้างทางรถไฟ ติดกับบ้านพักทหารค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลนครนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถานเข้าช่วยดับไฟ
ในที่เกิดเหตุเป็นชุมชนแออัดตั้งอยู่สองข้างทางรถไฟ ทำให้รถดับเพลิงเข้าไปถึงบ้านต้นเพลิงที่เกิดเหตุค่อนข้างยาก เจ้าหน้าที่ต้องลากสายน้ำดับเพลิงเข้าไปดับไฟที่กำลังลุกไหม้บ้านพักชั้นเดียวที่สร้างจากไม้ทั้งหลัง โดยเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนบ้านเสียหายทั้งหลัง เจ้าหน้าที่ทำได้เพียงควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปติดบ้านใกล้เคียง ใช้เวลานานเกือบ 30 นาที จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้
ตรวจสอบเบื้องต้นพบบ้านต้นเพลิงถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีผู้ถูกไฟคลอกได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อคือ นายบุญมี เอกวุธ อายุ 30 ปี ถูกไฟคลอกที่บริเวณแขน เนื่องจากบุกฝ่ากองเพลิงเข้าไปช่วยเหลือหลานชายวัย 4 เดือน และภรรยาน้องชายที่นอนหลับอยู่ในบ้าน ซึ่งทั้ง 2 คน ถูกช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัยรอดจากการถูกย่างสด เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
จากการสอบถาม นายสมหวัง ด่านตระกูล อายุ 27 ปี เจ้าของบ้านต้นเพลิง และเป็นอาสาสมัครตำรวจบ้าน สภ.เมืองนครราชสีมา กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปเข้าเวรอาสาสมัครตำรวจบ้าน โดยปล่อยให้ภรรยานอนกับลูกชายวัย 4 เดือน ภายในบ้านหลังดังกล่าวเพียงลำพัง 2 แม่ลูก ส่วนพี่ชายที่ถูกไฟคลอก นอนหลับอยู่บ้านใกล้เคียงกัน โดยบ้านตนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ต้องอาศัยนำแบตเตอรี่รถยนต์มาต่อให้แสงสว่างภายในบ้าน ซึ่งคาดว่าช่วงที่ภรรยาและลูกชายนอนหลับอยู่นั้น สายไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เกิดช็อตจนเกิดสะเก็ดไฟลุกลามไปติดเสื้อผ้าหรือบ้านไม้ จนเกิดไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว แต่โชคดีที่พี่ชายตนได้ลุยกองไฟเข้าไปช่วยภรรยาและลูกชายออกมาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป