กาญจนบุรี - ตำรวจ ปทส.ตั้ง 2 ข้อหาคนดูแลแร่พลวง และบริษัทเอกชนจีน ฐาน "ขนย้ายแร่มาถ่ายลำไว้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาช้างเผือกโดยไม่ได้รับอนุญาต และเก็บหาของป่า (แร่พลวง) ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต" พร้อมยึดของกลางทั้งหมดแร่พลวง 13,920 ถุง ขณะที่เจ้าตัวปฏิเสธไม่ลงลายมือชื่อรับทราบข้อกล่าวหา
วันนี้ (20 ม.ค.) พ.ต.ท.พิบูลย์ เวียงจันทร์ รองผู้กำกับการกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รอง ผกก.กก.5 บก.ปทส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเข้าตรวจสอบแร่พลวงที่บรรจุอยู่ในถุงปุ๋ยกองอยู่ที่บริเวณสถานที่ตรวจสินค้า (ไม้) ขาเข้า-ขาออก ณ ที่สาธารณะชุมชนบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี กว่า 14,000 ถุง เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ภายหลังจากการเข้าตรวจสอบ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดของกลางไว้จำนวน 2 รายการ คือ 1. พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาช้างเผือกประมาณ 3 ไร่ และ 2. ของป่าประเภทแร่พลวงจำนวน 1 กอง
ส่วนแร่พลวงที่กองอยู่ทั้งหมด เบื้องต้นนับได้จำนวน 13,920 ถุง มีน้ำหนักถุงละ 50 กิโลกรัม โดยแร่พลวงทั้งหมดผู้ประกอบการไม่สามารถนำเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้
สำหรับแร่ทั้งหมดเป็นของบริษัท Hunan Jin Mu Trading Co.,Ltd ซึ่งเป็นบริษัทของชาวจีน โดยมอบหมายให้บริษัท เซ้าท์อีสท์ โลจิสติกส์ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการขนย้ายถ่ายลำ ซึ่งทางบริษัทได้มอบหมายให้นายธวัช โพธิ์เผือก อายุ 44 ปี เป็นผู้ดูแลในการขนย้าย และได้นำแร่พลวงมาจากประเทศเพื่อนบ้านมาเก็บไว้ในสถานที่ตรวจสินค้า (ไม้) ขาเข้า-ขาออก ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาช้างเผือกมาตั้งแต่วันที่ 14-18 ม.ค. 56 ที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบโดยละเอียดพบว่า พื้นที่ที่ใช้สำหรับกองแร่นั้นไม่ปรากฏมีเอกสารสิทธิทางที่ดิน จากการวัดพิกัดทางดาวเทียม (GPS) เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาช้างเผือก ในส่วนของแร่ทางบริษัทและผู้ดูแลไม่สามารถนำเอกสารระบุถึงที่มาของแร่ได้ โดยเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาอย่างละเอียด จึงนำตัวนายธวัช โพธิ์เผือก ผู้ดูแล กับพวกส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีในข้อหาที่ 1 ขนย้ายแร่มาถ่ายลำไว้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาช้างเผือก โดยไม่ได้รับอนุญาต การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ฐานยึดถือ ครอบครอง หรือกระทำด้วยประการใดอันเป็นการทำลายพื้นที่ป่าสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาต
และข้อหาที่ 2 เก็บหาของป่า (แร่พลวง) ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.แร่ พ.ศ. 2510 ฐานครอบครองแร่เกิน 2 กิโลกรัม โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 105
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากเจ้าหน้าที่ได้อ่านบันทึกการจับกุมให้นายธวัช โพธิ์เผือก ผู้ต้องหาทราบ แต่ไม่ยินยอมที่จะลงลายมือชื่อรับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งก็เป็นสิทธิของผู้ที่ถูกกล่าวหา ทั้งนี้ เอกสารหลักฐาน รวมทั้งพิกัดดาวเทียม (GPS) ที่วัดพิกัดโดยรอบกองแร่ที่วัดได้ทั้งหมด 6 จุด ได้ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี เป็นผู้ดำเนินการ และหากทางพนักงานสอบสวนต้องการข้อมูลเพิ่มเติมจากทางตำรวจ ปทส.เราก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ
"จากการที่ผู้ต้องหาปฏิเสธลงลายมือชื่อรับทราบข้อกล่าวหานั้น ขั้นตอนต่อไปเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี ที่จะเป็นผู้ดำเนินการสอบสวน โดยจะรายงานการตรวจสอบให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามขั้นตอนต่อไป" พ.ต.ท.พิบูลย์กล่าว