จับลูกผู้น้องฆ่าพี่เป็นศพอืดกลางสวนชายแดนไทย-พม่า

กาญจนบุรี - ตำรวจสังขละบุรี จับลูกญาติผู้น้องฆ่าพี่เป็นศพขึ้นอืดทิ้งกลางสวนผลไม้ชายแดนไทย-พม่า กาญจนบุรี ผู้ต้องหาสารภาพผู้ตายใช้มีดไล่ฟันจึงยิงสวนด้วยปืนลูกซอง

เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (10 ม.ค.) พ.ต.อ.ประภัสร์ ประยูรหงส์ ผกก.สภ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีคนพบศพชายนอนเสียชีวิตขึ้นอืดเน่าส่งกลิ่นเหม็นคาสวนผลไม้ ในพื้นที่ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ห่างจากชายแดนไทย-พม่า ประมาณ 500 เมตร

หลังจากรับแจ้งเหตุ พ.ต.อ.ประภัสร์ พร้อม พ.ต.ท.สิงหา วังวงศ์ทอง รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สมชาย โตเฟื่อง สว.สส. และ พ.ต.ท.นพดล สีสุขวงศ์ พงส. (สบ 3) ร่วมกับแพทย์เวรจาก รพ.สังขละบุรี ออกเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ และร่วมชันสูตรพลิกศพ โดยในที่เกิดเหตุพบศพ นายกรกฏ ทยอมใหม่ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116/1 หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี นอนหงายเสียชีวิตริมถนนข้างสวนผลไม้ ห่างจากบ้านพักของนายกรกฎ ประมาณ 150 เมตร สภาพศพบวมขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งมีแมลงวันตอมจำนวนมาก มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่บริเวณหน้าอก ศีรษะทับมีดดาบยาว คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณเกือบ 10 วัน

ต่อจากนั้น พ.ต.อ.ประภัสร์ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สมชาย โตเฟื่อง สว.สส.สภ.สังขละบุรี นำกำลัง ตร.สืบสวนลงพื้นที่สืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ โดยใช้เวลาในการสืบสวนแค่ 1 ชม. สืบทราบว่า ผู้ตายเป็นคนในพื้นที่มีนิสัยชอบดื่ม และมักมีปากเสียงกับเพื่อนบ้านเป็นประจำ โดยล่าสุด ได้ทะเลาวิวาทกับลูกพี่ลูกน้องที่มีบ้านอยู่ใกล้กัน

หลังจากนั้น พ.ต.ท.สมชาย ได้เชิญตัวนายเฉลิมเกียรติ คูณเจริญทรัพย์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116/5 หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของคนตายมาสอบปากคำที่ สภ.สังขละบุรี ใช้เวลานานประมาณ 1 ชม. นายเฉลิมเกียรติ จึงให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฆ่านายกรกฎจริง โดยเหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 เวลาประมาณ 08.30 น.

โดยก่อนเกิดเหตุคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2555 เวลาประมาณ 22.30 น. ผู้ตาย และนายเฉลิมเกียรติ มีบ้านอยู่ตรงข้ามกัน และได้มีเหตุทะเลาะวิวาทกัน ต่อมา เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2556 เวลาประมาณ 08.30 น. นายกรกฎ ได้ขับรถมาจอดที่ถนน และถือมีดวิ่งเข้ามาจะใช้อาวุธมีดทำร้ายตน ตนจึงใช้อาวุธปืนลูกซองยาวที่ถืออยู่ยิงผู้ตาย จำนวน 1 นัด จนล้มฟุบเสียชีวิตคาที่เกิดเหตุ หลังจากยิงผู้ตายแล้วได้วิ่งหลบหนี นำอาวุธปืนไปซ่อนไว้ที่ท้ายไร่ ต่อจากนั้น ก็ทำเป็นไม่สนใจว่าเกิดอะไรขึ้นจนมีชาวบ้านมาพบศพ และแจ้งตำรวจมาสอบสวนจนถูกจับกุมในที่สุด

หลังการสอบสวน พ.ต.ท.สมชาย ได้นำตัวนายเฉลิมเกียรติ ไปเอาอาวุธปืนกระบอกที่ใช้ยิงนายกรกกฎ และเครื่องกระสุนปืนที่ซุกซ่อนไว้ นำส่งมอบให้พนักงานสอบสวนเป็นของกลาง พร้อมส่งตัวให้ดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยใช้อาวุธต่อไป