มหาสารคาม - หลายพื้นที่ในจังหวัดมหาสารคามที่อยู่นอกเขตชลประทานไม่มีน้ำทำการเกษตรเพราะภาวะความแห้งแล้ง กระทบพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะองุ่นให้ผลผลิตลดลงกว่า 50%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนองุ่นของนายเริ่ม อุดมฉวี เกษตรกรบ้านกุดนาดี ต.หนองแสง อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ซึ่งมีพื้นที่ปลูกองุ่นจำนวน 3 ไร่ต้องประสบปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำมารดต้นองุ่น ส่งผลให้ผลผลิตองุ่นลดลงกว่า 50%
นายเริ่ม อุดมฉวี เกษตรกรผู้ปลูกองุ่น กล่าวว่า ปีนี้สถานการณ์ภัยแล้งรุนแรงมาก อีกทั้งสภาพอากาศแปรปรวน จากเดิมที่เคยปล่อยน้ำทางสายน้ำหยด ก็ต้องต่อสายยางจากบ่อน้ำมารดต้นองุ่นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ส่วนผลองุ่นก็จะเล็กลงกว่าปีที่ผ่านมา และผลไม่สวยเท่าที่ควร แต่รสชาติ และความหวานยังคงอยู่เช่นเดิม
ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมาขายองุ่นได้เงินกว่า 400,000 บาท แต่ในปีนี้ผลผลิตลงลงเกินครึ่ง ขายได้เงินเพียง 100,000 กว่าบาทเท่านั้น สำหรับราคาขายในปีนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท
โดยหลังจากเก็บเกี่ยวผลองุ่นเสร็จแล้วก็จะเริ่มตัดแต่งกิ่งและใส่ปุ๋ยบำรุงดินใหม่ เพื่อให้องุ่นแตกยอดและออกผลใหม่ในรุ่นต่อไป
ด้านว่าที่ร้อยตรี จักรภัทร ผ่องโอภาส เกษตรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จังหวัดมหาสารคามได้ประกาศเขตภัยพิบัติแล้งไปแล้วทั้ง 13 อำเภอ ผลผลิตทางการเกษตรเสียหายกว่า 300,000 ไร่ ซึ่งวงเงินช่วยเหลือชดเชยให้เกษตรกรมากกว่า 50 ล้านบาท เกินกว่าอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด
โดยขณะนี้ได้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติระดับอำเภอ หรือ คชภ.อ. พิจารณากลั่นกรองก่อนนำเสนอคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติระดับจังหวัด หรือ คชภ.จ. เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป