สระแก้ว - อบต.วัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว เร่งแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัย เพื่อให้ประชาชนมีที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน
วันนี้ (16 ม.ค.) ณ ห้องประชุม อบต.วัฒนานคร จ.สระแก้ว นายวัฒนา บัวแก้ว รองนายก อบต.วัฒนานคร เป็นประธานในพิธี โดยมีนายวิชัย แสวงวงษ์ ประธานผู้ประสานเครือข่ายการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินแนวใหม่ตำบลวัฒนานคร และนายประสิทธิ์ สารการ กำบันตำบลวัฒนานคร นำชาวบ้านตำบลวัฒนานครประมาณ 100 คน ได้เข้าร่วมเพื่อแก้ไขในปัญหาที่ทำกิน
การจัดประชุมดังกล่าวเพื่อต้องการเร่งรัดตรวจสอบให้ประชาชนได้มีที่ทำกินตามที่เครือข่ายการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินในตำบลวัฒนานคร มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ โดยมีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมในการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเรื่องที่ดินให้แก่ชาวบ้านผู้เดือดร้อนได้รับทราบอย่างทั่วถึง พร้อมกับให้มีการลงพื้นที่สำรวจจัดทำแนวเขตพื้นร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชาวบ้านผู้เดือดร้อน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นธรรม
นายวิชัย แสวงวงษ์ ประธานผู้ประสานเครือข่ายการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินแนวใหม่ตำบลวัฒนานคร กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะปัญหาเรื่องปากเรื่องท้อง หนี้สิน ด้านการทำการเกษตร ปัญหาที่ดินทำกิน ฯลฯ เพื่อสร้างความเข้าใจต่อประชาชน ที่สำคัญปัญหาเดิมๆ ยังไม่ได้รับการแก้ไข เช่น เรื่องอาชีพ ต้นทุนการเกษตรด้วยการทำเกษตรอินทรีย์ การปลูกป่าครอบครัว การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินมีความขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ กรณีที่ดินทับซ้อนกับที่ดินป่าสงวนฯ ที่ดินในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า ปัญหาที่ดินเสื่อมสภาพจากการกัดเซาะหน้าดิน การขาดแคลนแหล่งน้ำในการเกษตร การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นได้ไม่เต็มที่
รวมทั้งปัญหาจากการเมืองในท้องถิ่น ควรจะต้องดำเนินการแก้ไขเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนต่อไป โดยผลสำรวจสมาชิกทั้ง 1,050 ราย ที่ไม่ที่ทำกิน และที่นำที่ดินไปจำนองในสถาบันการเงิน และนอกระบบเราจะนำเงินกองทุนที่มีอยู่ไปไถ่ถอนให้ก่อน
นายประสิทธิ์ สารการ กำบันตำบลวัฒนานคร กล่าวว่า เป้าหมายการวางผังตำบลเข้าสู่แผนพัฒนาตำบล โดยภาคประชาชนร่วมกับท้องที่ และท้องถิ่น ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร โดยช่วยเหลือในปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร่งด่วน เพื่อลดปัญหาเป็นหนี้สินของครัวเรือน ให้ประชาชนมีจิตสำนึก และหวงแหนในที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย พลิกฟื้นวิถีชีวิตชุมชนเพื่อการฟื้นฟูชุมชนในท้องถิ่นให้มีความยั่งยืน