เพชรบุรี - ชาวมุสลิมบ้านแหลม เมืองเพชรบุรีกว่า 100 คน รวมตัวประท้วงอีหม่ามของมัสยิดจรุงอิสลาม ประธานกองทุนฯ และคณะกรรมการ ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงการจัดเก็บค่ามายัต หรือค่าศพใหม่จากเดิมที่เคยเก็บมายัตละ 10 บาท เปลี่ยนมาเป็นเก็บแบบรายปี ปีละ 600 บาท
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (15 ม.ค.) นายสามารถ สร้อยมาลี อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/1 หมู่ 1 ต.ท่าแร้งออก อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ได้นำเหล่าพี่น้องชาวมุสลิมกว่า 100 คนของ ต.ท่าแร้ง ต.ท่าแร้งออก ต.บางขุนไทร อ.บ้านแหลม และ ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.เพชรบุรี ที่รวมตัวกันบริเวณหน้ามัสยิดจรุงอิสลาม หมู่ 1 ต.ท่าแร้งออก อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เพื่อต้องการยื่นหนังสือเรียกร้องการเก็บเงินสมาชิกค่ามายัต หรือค่าศพ หลังชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย และไม่พอใจที่ทางอิหม่ามของมัสยิดจรุงอิสลาม ประธานกองทุนฯ และคณะกรรมการที่จะมีการเปลี่ยนแปลงการจัดเก็บค่ามายัตจากเดิมที่เคยเก็บมายัตละ 10 บาท เปลี่ยนมาเป็นเก็บแบบรายปี ปีละ 600 บาท
โดยชาวบ้านต่างถือป้ายที่เขียนข้อความต้องการให้เก็บเงินค่ามายัต หรือค่าศพในรูปแบบเดิมคือ ศพละ 10 บาท พร้อมตะโกนต่อต้านตลอดเวลา เพื่อต้องการพบกับอิหม่ามสมบูรณ์ สืบสุข หรือตัวแทนให้ออกมารับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และมารับหนังสือร้องเรียนเพื่อพิจารณาใหม่ตามที่ชาวบ้านเรียกร้อง
จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง นายวีรยุทธ ม่วงทราง กรรมการมัสยิดจรุงอิสลาม ได้เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือร้องเรียนจากนายสามารถ สร้อยมาลี ซึ่งเป็นแกนนำชาวบ้าน เพื่อจะนำไปให้อิหม่ามสมบูรณ์ พิจารณา โดยนัดหมายให้ชาวบ้านมาฟังผลในวันอังคารหน้า เวลา 16.00 น. ที่หน้ามัสยิดจรุงอิสลาม จึงทำการให้การประท้วงในครั้งนี้ยุติลง และชาวบ้านได้แยกย้ายกันกลับไป
นายสามารถ สร้อยมาลี ซึ่งเป็นแกนนำชาวบ้าน เปิดเผยว่า การรวมตัวประท้วงของชาวบ้านในวันนี้ต่างไม่พอใจเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ใหม่ที่ทางอิหม่ามสมบูรณ์ ประธานกองทุนฯ และคณะกรรมการ ได้มีการปรับเปลี่ยนจากการเก็บเงินค่ามายัต หรือเงินค่าศพ ที่จากเดิมเคยเก็บอยู่ที่ศพละ 10 บาท เมื่อมีการเสียชีวิตของสมาชิกในกลุ่ม แต่ตอนนี้ทางประธานได้มีการจัดตั้งกรรมการชุดใหม่ขึ้นโดยไม่มีการผ่านมติของชาวบ้านจะมีการจัดเก็บค่ามายัตเป็นรายปีคือ ปีละ 600 บาท โดยสมาชิกจะจ่ายครั้งเดียว หรือแบ่งจ่ายก็ได้ตามความสะดวก โดยจะมีการเก็บเงินค่ามายัตครั้งที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1-31 มกราคมของทุกปี ครั้งที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1-30 มิ.ย.ของทุกปี และเมื่อจ่ายแล้วจะได้รับใบเสร็จภายใน 10 วันนับจากวันที่จ่าย หากผู้ใดไม่จ่ายตามกำหนดเวลาจะยืดเวลาให้อีก 10 วัน พร้อมค่าปรับ 50 บาท และหากว่าไม่มาติดต่อขอจ่ายเงินอีก จะถือว่าสละสิทธิจากการเป็นสมาชิก และจะเปิดรับสมัครสมาชิกใหม่ปีละ 2 ครั้ง คือ ในต้นเดือนมกราคม และเดือนมิถุนายน ของทุกปี หากมีสมาชิกเสียชีวิตไม่ถึง 60 มายัต หรือเกิน 60 มายัต จะมีการคิดบวกลบกันในปีต่อไป แต่ชาวบ้านไม่ยอม และต้องการให้ทางอิหม่ามยึดหลักการเก็บเงินแบบเดิมคือมายัตละ 10 บาทคงเดิม
ด้านนางประกอบ เขียวกะแล อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122 หมู่ 2 ต.ท่าแร้งออก อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า จากเดิมที่เคยเก็บศพละ 10 บาทนั้นดีอยู่แล้ว อย่างตนก็ไม่ใช่คนร่ำรวยอะไรหากจะมาเก็บเงินจำนวนมากๆ นั้น ก็ไม่รู้จะไปหาเงินจากที่ไหนมาจ่ายให้ วันนี้ที่มารวมตัวกับเพื่อนบ้านเพื่อต้องการมาประท้วงให้เก็บเงินแบบเก่า แต่หากไม่ยินยอมก็จะจัดตั้งกลุ่มใหม่ขึ้นแทน แต่ทางมัสยิดจรุงอิสลามจะต้องนำเงินสะสมที่เก็บจากชาวบ้านไปแล้วมาเป็นเวลานานนับหลาย 10 ปี คืนให้แก่ชาวบ้านทั้งหมด
ทางด้านนายโสภณ สืบสุข อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ 1 ต.ท่าแร้งออก อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องดังกล่าวนั้นต้องรอให้อิหม่ามสมบูรณ์ ที่เดินทางไปธุระที่ต่างจังหวัดกลับมาก่อน จึงจะสามารถสรุปได้ว่าจะตัดสินใช้มาตรการใดในเรื่องดังกล่าว
สำหรับกองทุนสงเคราะห์ผู้เสียชีวิตมัสยิดจรุงอิสลาม มีสมาชิกทั้งหมด 1,874 ครอบครัว ซึ่งกระจายอยู่ในหลายพื้นที่ ทั้งที่เป็นสัปบุรุษมัสยิดจรุงอิสลาม และมิได้เป็นสัปบุรุษมัสยิดจรุงอิสลาม จากการดำเนินการที่ผ่านมาเก็บมายัตละ 10 บาท โดยเก็บทุกครั้งที่มีการเสียชีวิจโดยจ่ายให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นเงิน 15,700 บาท จ่ายให้คนเดินเก็บร้อยละ 15 บาท