ดีเอสไอรุกสอบศูนย์หัวใจสิริกิติ์ มข.ทุจริตซื้อยาราคาแพงเกินจริง

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ดีเอสไอสอบผู้บริหาร จนท.ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หลังถูกร้องทุจริตจัดซื้อยาโบเซนแทน หรือชื่อทางการค้า Tracleer รักษาโรคความดันเส้นเลือดในปอด แพงกว่าโรงพยาบาลอื่นมากผิดปกติ

วันนี้ (15 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ขอนแก่นว่า นายภาสกร เจนประวิทย์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงพื้นที่ตรวจสอบศูนย์หัวใจสิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยเข้าพบ รศ.นพ.ทรงศักดิ์ เกียรติชูสกุล ผู้อำนวยการศูนย์หัวใจสิริกิติ์ มี ผศ.นเรศ วโรภาสตระกูล รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมรับฟังและให้ข้อมูล

นายภาสกรกล่าวถึงการเข้าพบผู้บริหารศูนย์หัวใจสิริกิติ์ว่า ได้ตรวจสอบเอกสารและเชิญเจ้าหน้าที่ของศูนย์มาให้ข้อมูลตามที่ดีเอสไอมีคำสั่งให้สืบสวนกรณีมีผู้ร้องเรียนกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ศูนย์หัวใจสิริกิติ์มีพฤติกรรมทุจริตการจัดซื้อยา Bosentan (โบเซนแทน) หรือชื่อทางการค้า Tracleer(ทราเคลียร์) ซึ่งเป็นยารักษาโรคความดันเส้นเลือดในปอด ในราคาซื้อขายแพงกว่าสถานพยาบาลแห่งอื่นมาก ซึ่งดีเอสไอได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบมาระยะหนึ่งแล้ว ครั้งนี้เป็นการหารือและขอข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้บริหาร โดยถือว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังไม่ได้กล่าวหาใคร ซึ่งดีเอสไอจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าราคายาอ้างอิงที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านเวชภัณฑ์ กระทรวงสาธารณสุข ประกาศราคายา Bosentan ขนาด 125 มิลลิกรัม ขวดละ 60 เม็ด ราคาขวดละ 96,300 บาท หรือเม็ดละ 1,605 บาท ขณะที่โรงพยาบาลส่วนใหญ่จัดซื้อในราคาอ้างอิงหรือใกล้เคียง แต่ศูนย์หัวใจสิริกิติ์จัดซื้อตั้งแต่ปี 2550-2555 ราคาขวดละ 146,590 บาท หรือเม็ดละ 2,443.16 บาท สูงกว่าราคาอ้างอิงเม็ดละ 838.16 บาท หรือขวดละ 50,290 บาท คิดเป็นราคาสูงกว่าราคาอ้างอิงประมาณร้อยละ 35 เงินส่วนต่างกว่า 3.50 ล้านบาทต่อปี

อีกทั้งการจัดซื้อยาดังกล่าวต้องซื้อจากบริษัท ซิลลิค ฟาร์ม่า (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายรายเดียวในประเทศไทย ดังนั้นข้อมูลที่ได้ถือว่าการจัดซื้อยาดังกล่าว สูงกว่าราคาท้องตลาดหรือสูงเกินความเป็นจริง และสูงกว่าราคาอ้างอิงมาก จึงอาจเข้าข่ายกระทำผิดฐานมีการสมคบกันเพื่อจูงใจให้มีการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กระทำการใดๆ อันเป็นการให้ประโยนช์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิเข้าทำสัญญากับหน่วยงานรัฐ หรือจูงใจให้ผู้นั้นทำการเสนอราคาสูงหรือต่ำจนเห็นได้ชัดว่าไม่เป็นไปตามลักษณะสินค้าหรือบริการ ซึ่งอาจเป็นความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ และอาจเป็นความผิดตามกฎหมายที่กำหนดไว้

ซึ่งทางดีเอสไอจะทำการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการจัดซื้อ เภสัชกร และผู้อนุมัติจัดซื้อยาดังกล่าว หากพบว่ามีการกระทำความผิดที่ชัดเจน จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการต่อไป

ด้าน ผศ.นเรศกล่าวว่า เนื่องจากบริษัทจำหน่ายยาดังกล่าวมีรายเดียว และคณะกรรมการจัดซื้อเคยทักท้วงแล้วว่าทำไมราคาจำหน่ายให้ศูนย์หัวใจสิริกิติ์สูงกว่าที่อื่น ก็ได้รับคำตอบว่าโรงพยาบาลแห่งอื่นสั่งซื้อครั้งละจำนวนมากตามปริมาณผู้ป่วยราคาจึงถูกกว่า ขณะที่ศูนย์หัวใจสิริกิติ์มีผู้ป่วยที่ต้องใช้ยานี้น้อยกว่า จำนวนสั่งซื้ออยู่ที่ปีละ 10-15 ขวดเท่านั้น ราคาจึงแพงกว่าที่อื่น อย่างไรก็ตาม คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของดีเอสไอ คณะแพทยศาสตร์พร้อมให้ความร่วมมือ