นครปฐม - ตร.ภาค 7 รวบ “ไอ้แจ๊ค” พร้อมแฟนสาว คนร้ายก่อคดีชิงทรัพย์ไปรษณีย์ในภาคกลาง พร้อมก่อเหตุมาแล้วหลายคดี ทั้งชิงทรัพย์ในที่ทำการไปรษณีย์ และร้านสะดวกซื้อ ผู้ต้องหาสารภาพสาเหตุที่เลือกที่ทำการไปรษณีย์ เพราะง่ายต่อการก่อเหตุ “ผบช.ภ.7” สั่งการเข้มทุกจุดเสี่ยง แนะใช้กล้องวงจรปิดทำให้ตำรวจล่าคนร้ายง่ายกว่าเดิม
เมื่อเวลา 11.20 น.วันนี้ (10 ม.ค.) ที่ห้องประชุม ศปก.ภ.7 พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมบูรณ์ ฮวบบางยาง และ พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รอง ผบช.ภ.7 และ พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบก.สส.ภ.7 พร้อมเจ้าหน้าที่สืบสวน ภ.จว.นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม 2 ผู้ต้องหา พร้อมของกลางหลายรายการ
พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า การจับกุมคนร้ายครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายวิชัย หรือแจ๊ค สว่างญาติ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 ม.1 ต.บ้านรุน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาที่ 1 ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 10/2556 ลงวันที่ 9 ม.ค.56 และ น.ส.สมคิด ชื่นฤทัย อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 ม.1 ต.แคออก อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาที่ 2 ตามหมายจับกุมจากศาลจังหวัดนครปมเลขที่ 1/2556 ลงวันที่ 9 ม.ค.56 พร้อมด้วยของกลาง ปืนพกสั้นแบบไทยประดิษฐ์ สีดำ ไม่มีทะเบียน จำนวน 1 กระบอก รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีนำเงิน-ขาว ทะเบียน อทว 257 กทม. จำนวน 1 คัน หมดกันน็อกปิดใบหน้า 1 ใบ ถุงมือ 1 คู่ เสื้อคลุมดำ-เทา 1 ตัว
จากการขยายผลไปที่บ้านของ น.ส.สมคิด พบของกลางอาวุธปืนสั้น อีก 1 กระบอก อุปกรณ์ และทรัพย์สินที่ได้จากการก่อเหตุอีกกว่า 30 รายการ โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันชิงทรัพย์โดยมี หรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป เพื่อหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณถนนภายในหมู่บ้าน ม.2 ต.แคออก อ.บางไทร จ. พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 9 ม.ค.56 เวลา 15.00 น.
“การจับกุมครั้งนี้ถือว่าได้คนร้ายคนสำคัญ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 พ.ย.55 เวลา 14.50 น.ได้มีคนร้าย 2 คนเป็นชาย และหญิงได้ใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์แบบปืนพกสั้น ขู่บังคับเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี โดยได้เงินไป 78,000 บาท จึงได้เร่งทำการสืบสวนติดตามเพราะพบมีพฤติกรรมก่อเหตุในหลายพื้นที่ และมีลักษณะการก่อเหตุเหมือนกัน โดยช่วงจับกุมตัวคนร้ายนั้นพบว่า ยังมีการพกอาวุธปืนติดตัวตลอดเวลา และได้สอบสวนเครียดจนสารภาพว่า ได้ก่อเหตุเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.55 เวลา 14.35 น.ก่อเหตุที่ไปรษณีย์ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี ได้เงินไป 14,600 บาท วันที่ 3 ม.ค.56 เวลา 16.00 น. ก่อเหตุที่ไปรษณีย์บางหลวง อ.บางเลน จ.นครปฐม ได้เงินไป 133,600 บาท และได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ในที่ทำการไปรษณีย์ และร้านสะดวกซื้อหลายพื้นที่ และหลายครั้ง แยกเป็นที่ทำการไปรษณีย์ 11 ครั้งใน 10 จังหวัด คือ นครปฐม ปทุมธานี นครนายก ปราจีนบุรี สิงห์บุรี อยุธยา กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สระบุรี และลพบุรี 2 ครั้ง ส่วนร้านสะดวกซื้อก่อเหตุ 9 ครั้งใน 4 จังหวัดคือ นครปฐม สมุทรสาคร นนทบุรี และพระนครศรีอยุธยา เรียกว่ามีประวัติโชกโชน”
พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 กล่าวต่อว่า ส่วนนายวิชัย หรือแจ๊ค สว่างญาติ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุมาหลายครั้ง โดยมองว่าที่ทำการไปรษณีย์มีเงินสดจำนวนมาก และไม่มีมาตรการป้องกันที่รัดกุมเหมือนธนาคาร จึงเลือกก่อเหตุได้เงินไปหลายครั้ง ซึ่งอาชีพเดิมได้ขับรถสองแถวที่ จ.พระนครศรีอยุธยา แต่เงินไม่พอใช้จึงได้ร่วมกับ น.ส.สมคิด แฟนสาว ลงมือก่อเหตุ ได้เงินหลายครั้ง จนย่ามใจแต่ก็พลาดมาถูกจับกุมได้ในที่สุด ส่วนที่ต้องพกอาวุธปืนตลอดเวลา เนื่องจากต้องมีไว้ป้องกันตัวเพราะที่บ้านมีวัยรุ่นเป็นนักเลงเยอะจึงต้องพกติดตัวไว้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไปทำแผน ก่อนดำเนินคดีทั้ง 2 คนตามกฎหมายต่อไป