xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ภาค 3 รวบแก๊งยาบ้ารายใหญ่ยกครอบครัว-ตามยึดรีสอร์ต ทรัพย์สินอื้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.ต.ธกฤต สิทธิประเสริฐ รอง ผบช.ภ.3 นำคณะแถลงข่าว ตำรวจภูธรภาค 3 รวบเครือข่ายค้ายาบ้ารายใหญ่ ได้ผู้ต้องหายกครัว 5 ราย พร้อมของกลางอื้อ ก่อนตามยึดทรัพย์ทั้งรีสอร์ต รถไถนาและรถยนต์อีก 3 คัน วันนี้ ( 27 ธ.ค.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตำรวจภาค 3 โชว์ผลงานรวบเครือข่ายค้ายาบ้ารายใหญ่ ได้ผู้ต้องหายกครัว 5 ราย พร้อมของกลางอื้อ ก่อนตามยึดทรัพย์ทั้งรีสอร์ต รถไถนา และรถยนต์อีก 3 คัน สารภาพซื้อยามาจากนายทุนฝั่งประเทศเพื่อนบ้านโดยผ่านนายหน้าคนไทย อ้างทำมา 2 ครั้งแล้ว แฉเป็นแก๊งค้ายาบ้ามีพฤติกรรมอุจอาจ พกอาวุธปืนตลอดเวลา พร้อมตั้งค่าหัวตำรวจในพื้นที่ด้วย

วันนี้ (27 ธ.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.ธกฤต สิทธิประเสริฐ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) พร้อมด้วยชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 แถลงผลการจับกุมครอบครัวเครือข่ายยาบ้า ได้ผู้ต้องหารวม 5 คน ประกอบด้วย นายคงคา ไชยวงศ์ อายุ 46 ปี พร้อมภรรยา คือ นางบุญเรือน สุวรรณกุฎ อายุ 50 ปี และลูกชายอีก 2 คน คือ นายไกรศักดิ์ สุวรรณกฎ อายุ 23 ปี, นายพงษ์สิริ สุวรรณกุฎ โดยทั้งหมดเป็นชาว อ.ค้อวัง จ.ยโสธร และ น.ส.พัชรี เอี่ยมศรี ชาว จ.อุบลราชธานี ซึ่ง น.ส.พัชรี ตำรวจไม่ได้นำตัวมาแถลงข่าว

พร้อมของกลางยาบ้าจากการล่อซื้อและตรวจยึดรวม 18,000 เม็ด, เงินล่อซื้อ 1.3 ล้านบาท, อาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 2 กระบอก, เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 20 นัด, รถยนต์กระบะจำนวน 2 คัน และรถยนต์เก๋งอีก 1 คัน

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ติดตามตรวจยึดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.มาตรการตรวจยึดทรัพย์ เป็นรถไถนาคูโบต้าขนาดใหญ่ จำนวน 1 คัน มูลค่า 1 ล้านบาท, รีสอร์ตพร้อมสิ่งปลูกสร้างจำนวน 7 หลังบนพื้นที่ 2 ไร่เศษ มูลค่า 3 ล้านบาท ในเขต อ.ค้อวัง จ.ยโสธร

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ได้ทำการสืบสวนทราบว่ามีเครือข่ายยาบ้าเขตพื้นที่ จ.ยโสธร และ จ.ศรีสะเกษ มีพฤติกรรมจำหน่ายยาบ้าจนมีฐานะร่ำรวย และกำลังกว้านซื้อที่ดิน พร้อมก่อสร้างรีสอร์ตเพื่อเป็นการฟอกเงิน โดยมีพฤติกรรมค้ายาเสพติดที่อุกอาจเนื่องจากพกอาวุธปืนติดตัวตลอดเวลา และตั้งค่าหัวเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนในพื้นที่ที่เข้าสืบสวนคดียาบ้าของเครือข่ายดังกล่าว จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และจัดกำลังลงพื้นที่ทำการสืบสวนด้วยการแฝงตัวเข้าไปเป็นพ่อค้ายาเสพติดมานานประมาณ 3 เดือน จนสามารถล่อซื้อยาบ้าได้ 12,000 เม็ด

จากนั้นได้ทำการจับกุมเครือข่ายดังกล่าว โดยนายคงคาเป็นผู้ที่ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่แฝงตัวเข้าไปและเป็นผู้นำยาบ้ามาส่ง ส่วนนายพงษ์ศิริ และนายไกรศักดิ์ ลูกเลี้ยง เป็นผู้ขับรถคุ้มครองนายคงคา สำหรับนางบุญเรือน ภรรยาเป็นผู้ออกเงินทุน ขณะที่ น.ส.พัชรีเป็นตัวเชื่อมไปยังเจ้าของยาบ้า ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล

ด้านนายคงคา ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ซื้อยาบ้ามาจาก น.ส.พัชรี ซึ่งมีนายทุนอยู่ใน สปป.ลาว โดยนัดหมายให้ไปรับยาบ้าในพื้นที่ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี จากนั้นได้นำมาขายให้เครือข่ายในพื้นที่ จ.ยโสธร โดยทำมา 2 ครั้งแล้ว แต่ทรัพย์สินทั้งหมดที่ถูกตำรวจยึดมานั้นไม่ได้มาจากการค้ายาบ้า เป็นทรัพย์สินที่เป็นมรดกของภรรยา

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ซึ่งนายคงคา และนายพงษ์ศิริ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อทำการสืบสวนขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น