ตร.เตรียมการดู “ม็อบเสธ.อ้าย” คาดยืดเยื้อถึงวันอภิปราย

โฆษก ตร.แถลงการดูแลสถานการณ์ชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ในวันที่ 24 พ.ย.นี้ คาดยืดเยื้อเลยไปถึงช่วงวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

วันนี้ (21 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษก ตร. พ.ต.ท.หญิง อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล รองโฆษก ศปก.ตร. ร่วมกันแถลงข่าวการดูแลสถานการณ์ชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษย์สยาม ในวันที่ 24 พ.ย.นี้

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า ผบ.ตร.ออกบันทึกสั่งการในหลายเรื่องเกี่ยวกับการดูแลการชุมนุม ดังนี้ 1. การทำหน้าที่ของตำรวจต้องดูแลการชุมนุมเป็นไปตามกฎหมาย ตามหลักสากล อดทนอดกลั้น โดยแจ้งทุกหน่วยตั้งจุดตรวจอาวุธผู้ที่เดินทางมาร่วมชุมนุม ทั้งพื้นที่ปริมณฑลก่อนเข้า กทม. จุดโดยรอบสถานที่ชุมนุม เส้นทางเข้าที่ชุมนุมแยกต่างๆ รอบลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อตรวจตราอาวุธ สิ่งของที่จะเกิดอันตรายต่อผู้ชุมนุมและประชาชนทั่วไป โดยจุดตรวจไม่มีเฉพาะตำรวจเท่านั้น จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย จากการประสานงานของ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.จะมีผู้ร่วมชุมนุมมาตรวจร่วม นอกจากนั้นจะมีการตรวจตราเรื่องอื่นๆ เช่น การจำหน่ายสุราซึ่งอาจเป็นชนวนก่อเหตุวุ่นวายได้ การตรวจจะตรวจด้วยมือและเครื่องตรวจ

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า 2. เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานจุดคัดกรองผู้ชุมนุมให้ทำสุภาพ ชี้แจงประชาชนทุกคน ส่วนตำรวจที่ได้รับมอบหมายทั้ง 112 กองร้อยจะไม่พกอาวุธ มีเพียงอุปกรณ์ควบคุมฝูงชน ห้ามเล่นการพนัน ดื่มสุรา หากใครฝ่าฝืนถือว่าผิดวินัยร้ายแรงให้ออกจากราชการเท่านั้น

3. การใช้กำลังอาสาสมัครที่จะช่วยตำรวจเน้นให้ทุกสถานีตำรวจที่ใช้กำลังอาสาสมัคร ให้มีนายตำรวจคอยกำกับดูแลให้อาสาสมัคร เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานเท่านั้น นอกจากนั้นยังฝากเรื่องของการวิเคราะห์สถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ตำรวจที่มาทำงานต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และในวันนี้ เวลา 13.30 น. ผบช.น.ได้เรียกรอง ผบก.ทั่วประเทศที่รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงให้มารับทราบแผนการปฏิบัติ ณ ห้องประชุมใหญ่ บช.น. วันที่ 22 พ.ย. กำลังพลทั้งหมดจะเข้าสู่จุดรวมพล ส่วนวันที่ 23 พ.ย.เวลา 14.00 น. ผบ.ตร.จะแถลงแผนการปฏิบัติงานด้วยตนเอง จะมีการเชิญสื่อมวลชน องค์กรอิสระ เอ็นจีโอ ตัวแทนสถานทูตต่างๆ มาร่วมรับฝังพร้อมมีการแสดงการใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชนในแต่ละขั้นตอนด้วย

“ถึงขณะนี้สันติบาลประเมินกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ที่ 50,000 กว่าคน และคาดว่าการชุมนุมจะยืดเยื้อไปจนถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่ง ตร.ก็ได้มีการเตรียมการเอาไว้แล้ว” โฆษก ตร.ระบุ

ด้าน พ.ต.อ.อนุชากล่าวว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ให้ทุกหน่วยคัดเลือก ผบก.ที่มีภาวะผู้นำหน่วยและสามารถบริหารสั่งการแก้ไขเหตุการณ์วิกฤตได้อย่างมีประสิทธิภาพ หน่วยละ 4 นายมาปฏิบัติหน้าที่ผู้ควบคุมกำลังร่วม ศปก.น.ในการแก้ปัญหาการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามระหว่างวันที่ 24-25 พ.ย. และได้กำชับ บช.น.วางแผนอำนวยการจราจรในพื้นที่ชุมนุมและใกล้เคียง ให้จัดกำลังให้เพียงพอและเริ่มปฏิบัติงาน ในวันที่ 22 พ.ย.

ขณะที่ พ.ต.ท.หญิง อัญชุลี กล่าวว่า ด้านแผนการแพทย์สาธารณสุขที่จะดูแลช่วยเหลือประชาชนผู้ร่วมชุมนุมและประชาชนทัวไปทั่วไป โรงพยาบาลตำนวจร่วมกับสภากาชาดไทย รพ.รัฐและเอกชนเตรียมแผนการแพทย์ในสถานการณ์ฉุกเฉินไว้ คือ แผนเอราวัณ 1-3 เตรียมการตั้งแต่ระดับปกติจนถึงบาดเจ็บรุนแรงตามลำดับ มีการเตรียมอุปกรณ์ทางการแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ให้พร้อมรับหากมีสถานการณ์ฉุกเฉิน ทีมแพทย์ทุกคนหวังว่าการชุมนุมจะผ่านไปด้วยดีไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ

เวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผยถึงมาตรการเตรียมความพร้อมวางแผนรับการชุมนุมกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามของพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ.อ้าย ประธานกลุ่ม บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ในวันที่ 24 พ.ย.2555 ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกคำสั่งปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อรองรับสถานการณ์การชุมนุมในครั้งนี้ จำนวน 112 กองร้อย โดยระดมจากกองบัญชาการทุกแห่ง และในวันที่ 21 พ.ย. เวลา 13.30 น. จะมีการประชุมเพื่อมอบหมายภารกิจให้หัวหน้าชุด ก่อนที่กำลังพลจะเข้ามาพร้อมปฏิบัติในพื้นที่ในวันที่ 22 พ.ย.นี้

พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวอีกว่า จากการข่าวรายงานว่าในการชุมนุมครั้งนี้อาจจะมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ระหว่างการชุมนุม ดังนั้น ทางบช.น. ได้สั่งการให้ตั้งจุดตรวจเข้มแข็ง และขอความร่วมมือจากกลุ่มผู้ชุมนุมให้ทำตามข้อปฏิบัติ และจะต้องถูกตรวจอาวุธทุกคนก่อนเข้ามายังบริเวณที่ชุมนุม รวมถึง จะตรวจยึดสิ่งที่อาจจะเป็นอันตรายแก่ผู้เข้าร่วมชุมนุมด้วยกันเองไว้ นอกจากนี้ มีการตรวจสอบพื้นที่จุดสูงข่มและวงรอบต่างๆ 3 รอบ ได้แก่ รอบใน 1กิโลเมตร รอบกลาง 5 กิโลเมตร และรอบนอก 10 กิโลเมตร

“ในกรณีที่มีเหตุความวุ่นวายและมีสถานการณ์รุนแรงเกิดขึ้นทางบช.น. ได้จัดพื้นปลอดภัยไว้ที่ สนามม้านางเลิ้ง, สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ,สโมสรทหารบก และวัดเบญจมบพิตร ซึ่งตามที่กลุ่มองค์การพิทักษ์สยามได้ประกาศเอาไว้ว่า กรณีมีเหตุฉุกเฉิน ให้ผู้ชุมนุมไปหลบภัยที่สนามเสือป่า ,สวนอัมพร หรือสถานที่ใกล้เคียงที่ทางบช.น.ไม่ได้ระบุไว้ อาจจะทำให้ไม่ได้รับความสะดวกและปลอดภัย สำหรับการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลความสงบเรียบร้อยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม จะพิจารณาตามสัดส่วนที่เหมาะสม และกรณีหากเกิดความรุนแรงใดๆ ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้แก็สน้ำตา จะใช้เป็นแบบชนิดขว้างเท่านั้น ซึ่งไม่เกิดอันตรายกับผู้ชุมนุมแต่อย่างใด นอกจากนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)ได้กำชับกำลังพลที่มาปฏิบัติหน้าที่ให้ปฏิบัตหน้าที่อย่างมีวินัย ห้ามพกอาวุธปืน ซึ่งต้องใช้วิธีการที่ดีที่สุดและต้องเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด”พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าว

ขณะเดียวกันที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.ป. ตรวจแถวกองร้อยควบคุมฝูงชน กองร้อยที่ 1 และ 2 บช.ก. พร้อมชมการฝึกทบทวนยุทธวิธีการควบคุมฝูงชนเพื่อรองรับแผนกรกฎ 52 ที่ลานฝึกหน้าเสาธง บก.ป. เพื่อเตรียมความพร้อมในการดูแลการชุมนุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ โดยกำลังชุดนี้จะเป็นกำลังเสริมการปฏิบัติซึ่งเตรียมพร้อมอยู่ในที่ตั้งในช่วงที่มีการชุมนุม