ตร.บุรีรัมย์บุกทลายโกดังเสื้อผ้าละเมิดลิขสิทธิ์ยี่ห้อดังร่วมหมื่นชิ้น

บุรีรัมย์ - ตำรวจบุรีรัมย์บุกทลายโกดังเสื้อผ้าละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่เสียภาษี ไม่มีหลักฐานนำเข้าหลายยี่ห้อดัง ยึดของกลางร่วมหมื่นชิ้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท จับผู้ต้องหา 4 ราย เผยเป็นแหล่งใหญ่ในจังหวัดนำเข้าจากชายแดนขายส่งให้กับพ่อค้าแม่ค้าไปขายต่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำที่ผ่านมา (9 ม.ค.) พล.ต.ต.รัฐพงษ์ ยิ้มใหญ่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงศ์ชัย ผู้กำกับ (ผกก.) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 นาย พร้อมหมายศาลจังหวัดบุรีรัมย์ บุกตรวจค้นบ้านเลขที่ 1 หมู่ 19 บ.โสน ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หลังผู้เชี่ยวชาญด้านลิขสิทธิ์ลอกเลียนแบบและเป็นผู้เสียหายที่ถูกละเมิด เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ว่ามีผู้ลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา

จากการเข้าตรวจค้นพบกางเกงยีนส์ เสื้อและกางเกงกีฬา ลอกเลียนแบบหลายยี่ห้อดัง เช่น เสื้อและกางเกงยี่ห้อลีวายส์ แรงเลอร์ เสื้อสโมสรฟุตบอลดังหลายสโมสร และสินค้ายี่ห้ออื่นๆ อีกนับสิบยี่ห้อ นอกจากนี้ยังพบเสื้อผ้าบางชนิดนำเข้าจากประเทศจีนโดยไม่มีหลักฐานการนำเข้า

ต่อมาได้มีนายมนตรี ปุงปาพาน อายุ 33 ปี อยู่เลขที่ 90 หมู่ 9 ต.ก้ามปู อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม พร้อมกับคนในร้านรวม 4 คนรับเป็นเจ้าของเสื้อผ้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวน พร้อมตรวจยึดเสื้อผ้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ร่วมหมื่นชิ้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ไว้ตรวจสอบดำเนินคดีด้วย

นายจรูญ ไพรวัลย์ ผู้เชี่ยวชาญชี้นำจับกุมตรวจค้นเกี่ยวกับสินค้าละเมิดสินค้าทางปัญญา และนำเข้าจำหน่ายโดยไม่เสียภาษี ระบุว่าร้านดังกล่าวเป็นร้านขายส่งขนาดใหญ่ มีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อไปขายต่อเป็นจำนวนมาก จากการสืบทราบสินค้าทั้งหมดได้ถูกส่งมาจากตลาดตามแนวชายแดน ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบผิดปกติในตัวเสื้อผ้า เพราะไม่มีฉลากเครื่องหมายที่ถูกต้อง และไม่มีหลักฐานการได้มาของสินค้า ถือว่าไม่ได้ผ่านการเสียภาษีอย่างถูกต้อง โดยสินค้าชิ้นเดียว อาจผิดทั้งลิขสิทธิ์ ฉลาก และการนำเข้าไม่เสียภาษี ลักษณะดังกล่าวทำให้รัฐเสียหายโดยขณะนี้มีการแพร่ระบาดมากในหลายจังหวัด

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดสินค้าทั้งหมดไปตรวจสอบที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ซึ่งหากเจ้าของสามารถนำหลักฐานมายืนยันได้ว่าสินค้ามีที่ไปที่มาถูกต้องก็จะคืนสินค้าให้ โดยเบื้องต้นได้จับกุมผู้ต้องหารวม 4 คนในข้อหาปลอมหรือเลียนแบบเครื่องหมายการค้าผู้อื่น