พระนครศรีอยุธยา - DSI นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบหาข้อมูลขยะติดเชื้อ และกระบวนการทำลายในเตาเผาในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน พระนครศรีอยุธยา
วันนี้ (8 ม.ค.) ที่ศูนย์สาธารณูปโภค ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมคณะเดินทางมาตรวจสอบและศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับเตาเผาขยะ โดยร่วมกับคณะเจ้าหน้าที่ของทางนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ก่อนเดินทางลงพื้นที่ตรวจดูเตาเผาขยะที่สามารถเผากำจัดขยะที่เป็นสารมีพิษได้โดยไร้ควันไม่ส่งผลกระทบหลังจากการทำลาย
พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ เปิดเผยว่า ที่เดินทางมาครั้งนี้ต้องการมาหาข้อมูล และตรวจสอบถึงวิธีการกำจัดขยะติดเชื้อ จากการได้รับข้อมูล และตรวจสอบวิธีการกำจัดขยะพบว่า การกำจัดขยะใช้วิธีเพิ่มอุณหภูมิความร้อนสูง และจุดนี้เป็นสถานที่ที่กระทรวงสาธารณสุขได้มาเผาทำลายยาเสพติดเป็นประจำ ดูแล้วกระบวนการเผาขยะได้มาตรฐาน
ที่เดินทางพร้อมกับคณะสืบเนื่องมาจากมีผู้ร้องเรียนว่ามีผู้นำขยะไปทิ้งไว้ตามป่าหญ้าและที่ลับตาคนในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ ทำให้ประชาชนเดือดร้อน และติดเชื้อบางรายถึงกับเสียชีวิต จากการตรวจสอบพบว่ามี 3 บริษัท ซึ่งเป็นเครือข่ายเดียวกันประมูลขนถ่ายขยะติดเชื้อจากสถานพยาบาลต่างๆ ในภาคอีสานถึง 37 แห่ง มีข้อมูลว่าได้นำขยะมาทำลายที่เตาเผาขยะในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ดูจากตัวเลขถึงเดือนกรกฎาคม มีปริมาณเพียง 74,470 กิโลกรัม ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่ตรงกัน
ดังนั้น ขยะติดเชื้ออีกจำนวนมหาศาลผู้ประมูลงานไม่รู้ว่านำไปทิ้งที่ใด เท่าที่ตรวจสอบในจังหวัดสุรินทร์ และบุรีรัมย์ พบว่า ได้นำขยะไปกำจัดโดยใช้วิธีฝังกลบ ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง เพราะเชื้อโรคจะมีการกระจายไปสู่ชุมชน หากผู้ใดได้รับสารเข้าสูร่างกายจะทำให้เกิดโรคร้าย ถ้ายิ่งพบว่าอยู่ใกล้แหล่งน้ำจะทำให้เกิดอันตรายอย่างรวดเร็ว ทราบว่าทางท้องที่ในจังหวัดสุรินทร์ และบุรีรัมย์ ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ที่นำขยะมาทิ้งแล้วทำการปรับไป แต่ทาง DSI กำลังตรวจสอบว่า จะมีกฎหมายตัวใดที่จะเพิ่มโทษแก่ผู้ที่นำขยะมาทิ้ง ให้มากกว่านี้
“ขณะนี้ ทางอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กำลังจัดตั้งศูนย์สืบสวนสอบสวนและปราบปรามการลักลอบทิ้งขยะสารพิษและวัตถุอันตรายขึ้น เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนที่พบเห็นปัญหาได้แจ้งเข้าโดยตรง เป็นหน่วยงานหนึ่งให้แก่ประชาชนในการช่วยเหลือได้รวดเร็วยิ่งขึ้น”
