ระยอง - รูปปั้นนางยักษ์ ตั้งสูงตระหง่านในทะเลบริเวณหัวสะพานท่าเทียบเรือเกาะเสม็ด ถูกคลื่นซัดพังเสียหายจมสู่ใต้ท้องทะเล
วันนี้ (27 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านบนเกาะเสม็ดว่า รูปปั้นนางยักษ์ที่ตั้งสูงตระหง่านอยู่ในทะเลบริเวณหัวสะพานท่าเทียบเรือเกาะเสม็ด อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด หมู่ 4 ต.เพ อ.เมืองระยอง จมหายไปในทะเลเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา ทั้งที่สะพานท่าเทียบเรือแห่งนี้เพิ่งสร้างเสร็จโดยใช้งบประมาณ 170 ล้านบาท มีนายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธีเปิดใช้อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา
เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปดูบริเวณสะพานท่าเทียบเรือเกาะเสม็ด พบว่า บริเวณรูปปั้นนางยักษ์ขนาดใหญ่หายไป เหลือแต่เสาคอนกรีตสีเหลี่ยมขนาด 12 นิ้วตั้งอยู่ สอบถามนายนิรันทร์ ทิพราช อายุ 31 ปี อาชีพขับรถสองแถวบนเกาะเสม็ด กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กลางดึกของวันที่ 25 ธันวาคม ได้เกิดลมพายุพัดมาบริเวณหน้าเกาะเสม็ดอย่างรุนแรง เจ้าของเรือต้องนำเรือเข้าไปหลบลมพายุบริเวณหลังเกาะ พอรุ่งเช้ามาขับรถตามปกติก็ไม่เห็นรูปปั้นนางยักษ์ ด้วยความสงสัยจึงเดินไปดู ปรากฏว่า รูปปั้นนางยักษ์ถูกเสาคอนกรีตแทงเสียบทะลุศีรษะ ทำให้รูปปั้นทรุดจมลงไปในทะเล เหลือแต่เสาคอนกรีตตั้งอยู่
คาดว่ารูปปั้นนางยักษ์อาจถูกลมพายุซัดจนได้รับความเสียหาย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสาเหตุเกิดจากอะไร โดยได้แต่มีการคาดเดากัน
ด้านนายมนตรี หาญมนตรี หัวหน้าป้องกันและปราบปรามทางทะเล ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 กล่าวว่า เมื่อช่วงวันที่ 23-25 ธันวาคมที่ผ่านมา มีลมพายุที่ชาวประมงเรียกว่าลมอุกา พัดจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือมุ่งหน้าไปที่บริเวณหน้าเกาะเสม็ด จะเกิดขึ้นเป็นประจำช่วงระหว่างปลายเดือนธันวาคม-มกราคม บางช่วงเกิดขึ้น 2-3 วันก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ถ้ามีเรือของชาวประมงจอดอยู่หน้าเกาะเสม็ดต้องนำเรือไปหลบลมพายุดังกล่าวอีกด้านหนึ่ง
ส่วนกรณีที่รูปปั้นนางยักษ์จมหายไปในทะเลไม่ทราบแน่ชัดว่า เกิดจากลมพายุอุกาหรือไม่ แต่ช่วงวันดังกล่าว เป็นช่วงที่มีลมพายุอุกาพัดเข้าเกาะเสม็ดรุนแรงมาก
แหล่งข่าวบนเกาะเสม็ด กล่าวว่า กลางดึกวันที่ 25 ธันวาคม เป็นช่วงที่มีลมพายุรุนแรง เจ้าของเรือประมง เรือโดยสารต้องรีบนำเรือไปหลบคนละฝั่งของเกาะ ส่วนกรณีรูปปั้นนางยักษ์ขนาดใหญ่ทำด้วยไฟเบอร์ ลำตัวกว้าง 7 เมตร สูง 14 เมตร น้ำหนักมากกว่า 10 ตัน เพิ่งสร้างเสร็จและทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา จมหายไปในทะเลในลักษณะเสาคอนกรีตที่อยู่ตรงกลางตัวยึดรูปปั้นแทงทะลุศีรษะรูปปั้นนางยักษ์ ทำให้รูปปั้นรูดจมลงไปในทะเล ชาวเกาะเสม็ดหลายคนพูดกันว่า สาเหตุไม่น่าจะเกิดจากลมพายุอุกาในช่วงดังกล่าว น่าจะเป็นเรือขนาดใหญ่กำลังวิ่งเข้าใกล้บริเวณหัวสะพาน โดนลมพายุซัดอย่างแรงทำให้เรือเสียการทรงตัวไปชนรูปปั้นนางยักษ์จนได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีใครกล้าพูดความจริง ทราบว่า ขณะนี้รูปปั้นนางยักษ์ได้นำมาวางไว้บริเวณท่าเรือโชคมานะฝั่งตลาดบ้านเพ เพื่อรอการซ่อมแซมต่อไป
นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผวจ.ระยอง กล่าวว่า กรณีรูปปั้นนางยักษ์ที่ตั้งอยู่บริเวณหัวสะพานท่าเทียบเรือเกาะเสม็ด จมหายไปในทะเลนั้น จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก่อนหน้าที่รูปปั้นจะล้มจมหายไปในทะเล เป็นช่วงที่มีคลื่นลมแรง คาดว่าจะเป็นต้นเหตุทำให้รูปปั้นนางยักษ์จมหายไปในทะเล ไม่ใช่เป็นการสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน ล่าสุด ทราบว่าทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยองได้นำรูปปั้นนางยักษ์ขึ้นมาซ่อมแซมบนฝั่งบ้านเพแล้ว