ระยอง - อธิบดีอุทยานฯ ลงพื้นที่ตรวจสะพานท่าเทียบเรือ และบ่อขยะบนเกาะเสม็ด ส่วนกรณีรื้อถอนรีสอร์ต 3 แห่ง อ้างขึ้นอยู่กับข้อกฎหมาย และพร้อมจะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
วันนี้ (20 ธ.ค.) ที่บริเวณท่าเรืออุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด อ.เมืองระยอง นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และคณะ พร้อมด้วยนางภารดี จงสุขธนามณี ประธานคณะอนุกรรมาธิการสิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติวุฒิสภา และคณะเดินทางไปดูความเรียบร้อยสะพานท่าเทียบเรือเกาะเสม็ด หมู่ 4 ต.เพ โดยมีนายอาคม น้ำคม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ให้การต้อนรับ โดยมีคนงานกำลังเก็บทำความสะอาด และตกแต่งสะพานท่าเทียบเรือเพื่อเตรียมเปิดใช้สะพานท่าเทียบเรืออย่างเป็นทางการในวันที่ 21 ธันวาคมนี้
จากนั้นได้เดินทางไปดูสภาพบ่อขยะบริเวณใกล้อ่างเก็บน้ำบนเกาะเสม็ด มีปัญหาขยะล้นเกาะ ส่งกลิ่นเหม็น และน้ำเสียไหลสู่ทะเล ซึ่งอยู่ระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยอง ได้ยื่นขออนุญาตการบริหารจัดการขยะมูลฝอยอย่างยั่งยืน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
นายมโนพัศ กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาพร้อมกับคณะอนุกรรมาธิการสิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติวุฒิสภา เพื่อตรวจสอบสะพานท่าเทียบเรือเกาะเสม็ด ซึ่งทางกรมอุทยานฯ ได้อนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้างแล้ว ผ่านตามขั้นตอนการขออนุญาตการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในเบื้องต้น ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ก็ขอให้ปฏิบัติไปตามกฎระเบียบ ซึ่งทางกรมอุทยานฯ อยากให้ยึดถือระเบียบ และข้อกฎหมาย รวมทั้งมาดูว่าความเป็นมาของเกาะเสม็ด
ขณะนี้มีสภาพค่อนข้างเสื่อมโทรมทำอย่างไรให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน หาดทรายต้องเป็นหาดสาธารณะ ไม่ใช่ รีสอร์ต หรือร้านอาหารเป็นเจ้าของหาดทรายคนอื่นใช้ไม่ได้ หาดทรายต้องเป็นสมบัติของประชาชนในพื้นที่ ต้องให้พี่น้องประชาชน หน่วยราชการมาช่วยกันแก้ปัญหาว่าทำอย่างไรให้เกาะเสม็ดมีความสวยงาม
นายมโนพัศ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีเรื่องการรื้อถอนรีสอร์ต พลอยเสม็ด มุกเสม็ด และอันซีน ที่ปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ต้องดูข้อกฎหมายว่าเป็นไปอย่างไร สิ้นสุดหรือยัง ขณะนี้ยังไม่ได้ดูหากเจ้าของผู้ประกอบการยื่นอุทธรณ์ เจ้าหน้าที่ก็ยังดำเนินการรื้อถอนไม่ได้ แต่เมื่อกฎหมาย หรือคดีสิ้นสุดก็จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
ด้านผู้สื่อข่าวถามว่า เหลือเวลาอีก 9 เดือนก่อนเกษียณอายุราชการ จะมีโอกาสได้รื้อถอนรีสอร์ตดังกล่าวหรือไม่ อธิบดีตอบว่า ขึ้นอยู่ข้อกฎหมายว่าอย่างไร ทั้งนี้ทั้งนั้นการดำเนินการ และต้องดูความสมดุลย์ของทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมสังคม และเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล
นอกจากนั้น ยังมีการสร้างร้านอาหารลงไปชายหาด และทะเลบริเวณอ่าวกลางเกาะเสม็ด นายมโนพัศ ตอบว่าเรื่องนี้ยังไม่เห็นรายงาน และจะกลับไปศึกษากฎหมายข้อบังคับอีกครั้ง ต้องขออนุญาตเพระเพิ่งมารับตำแหน่งใหม่ และจะหาทางออกให้ดีที่สุด ซึ่งจะตามใจคนทุกฝ่ายไม่ได้
นายมโนพัศ กล่าวถึงปริมาณขยะบนเกาะเสม็ดวันละ 10-15 ตัน มีเตาเผาขยะจำนวน 2 เตา สามารถเผาขยะได้วันละ 10 ตัน นับว่ามีปริมาณจำนวนมาก ดังนั้น ขยะต้องเร่งทำความเข้าใจเรื่องการคัดแยกขยะตั้งแต่ที่บ้าน ร้านอาหาร หรือสถานประกอบการ รีสอร์ต คัดแยกขยะที่สามารถนำไปรีไซเคิล ขยะอินทรีย์นำไปทำปุ๋ย หรือนำไปฝังกลบอย่างถูกวิธี และขยะบางส่วนนำไปเผา
ขณะนี้ได้รับแจ้งจากทาง อบจ.ระยองว่า ขณะนี้ได้มีการพลิกขยะในบ่อแล้วปูพลาสติกรองพื้น จากนั้นจะนำขยะใส่ลงบ่อเพื่อฝังกลบไม่ให้น้ำจากบ่อขยะไหลซึมใต้ดินเพื่อเป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้น
ด้านนายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ. กล่าวว่า ท่าเทียบเรือเกาะเสม็ดมีความพร้อมสมบูรณ์ และในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ จะทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการโดยนายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง มาเป็นประธานเปิดร่วมกับ อบจ.ระยอง ชาวบ้านบนเกาะเสม็ด และนักท่องเที่ยวบริเวณสะพานท่าเทียบเรือเกาะเสม็ด ต้อนรับวันคริสต์มาส และวันขึ้นปีใหม่
ส่วนเรื่องการบริหารจัดการท่าเทียบเรือนั้น จะบริหารจัดการแบบนานาชาติโดยทั่วไป มีการบริหารร่วมกันกับอุทยานฯ โดยได้พูดคุยกับ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีนโยบายสอดคล้องกันที่จะร่วมกันพัฒนาด้านเศรษฐกิจท่องเที่ยวบนเกาะเสม็ด สิ่งที่อนุรักษ์ก็จะอนุรักษ์ไว้ สิ่งไหนที่ผิดก็จะแก้ไขให้ถูกต้อง สิ่งไหนที่ผิดมากต้องหยุด ซึ่งเป็นแนวทางที่ดี
นายปิยะ กล่าวต่อไปว่า ส่วนแผนการเก็บค่าธรรมเนียมท่าเทียบเรือจะร่วมกับอุทยานฯ รวมทั้งค่าสาธารณูปโภคต่างๆ จะคิดรวม และนำเม็ดเงินเข้ามาบริหารจัดการสาธารณูปโภคบนเกาะเสม็ด รวมทั้ เรื่องขยะ น้ำเสีย ถนน สิ่งไหนที่ อบจ.ทำได้ก็จะร่วมกับกรมอุทยานฯ ส่วนเรื่องบ่อขยะมูลฝอยบนเกาะเสม็ด เฟสแรกได้งบมา 38 ล้านบาท อบจ.ระยอง สมทบอีก 10% ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านการศึกษาเรื่องผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมรวมทั้งแบบก่อสร้าง ขณะนี้รออนุมัติจากกรมอุทยานฯ
“ปัญหาบ่อขยะเกาะเสม็ดนั้นต้องรีบดำเนินการ เพราะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นจำนวนมาก ทำให้จำนวนขยะเพิ่มมากขึ้น จึงต้องรีบเร่งบริหารจัดการก่อนขยะจะมีมากขึ้นกว่านี้ รวมทั้งด้านน้ำเสีย ซึ่งจะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมบนเกาะเสม็ดเป็นอย่างมาก” นายปิยะกล่าว