ตราด - ฮุนเซนเปิด “นิคมอุตสาหกรรมเกาะกง” หลังตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ เผย 4 บริษัทยักษ์ใหญ่จากเกาหลี ญี่ปุ่น และไทย ลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ตราด ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา พร้อมคณะทูตานุทูต คณะรัฐมนตรีกัมพูชา ข้าราชการระดับสูง ผู้บัญชาการทหารของกัมพูชา ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทที่ลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมเกาะกง พร้อมนายพัด สุภาภา ผู้บริหาร บริษัท KOH KONG SEZ จำกัด ที่เป็นผู้บริหารโครงการนิคมอุตสาหกรรมเกาะกง และ พล.ร.ท.สนธยา น้อยฉายา ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันจันทบุรี-ตราด น.ส.เบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ได้ร่วมพิธีเปิดนิคมอุตสาหกรรมเกาะกง ที่บ้านเนียงถก อ.มณฑลเสมา จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา
นายบุญเลิศ พราหมณ์เกสร ผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง กล่าวว่า เพื่อเป็นการพัฒนา และส่งเสริมการมีงานทำของประชาชนในชนบทห่างไกล โดยเฉพาะ จ.เกาะกง ที่อยู่ห่างไกลจากความเจริญของเมืองหลวง ไม่มีถนนเชื่อมต่อกับกรุงพนมเปญ เนื่องจากถนนสายหลักถูกตัดขาดจากสงคราม การติดต่อคมนาคมต้องใช้ทางเรือ โดยมีเรือโดยสารจาก จ.เกาะกง ไป จ.สีหนุวิลล์ วันละ 2 เที่ยวเท่านั้น ทางรัฐบาลจึงได้จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเกาะกงขึ้น โดยมอบให้บริษัท KOH KONG SEZ จำกัด ที่เป็นบริษัทย่อยของในเครือแอลวายพี กรุ๊ป เป็นผู้บริหารนิคมแห่งนี้ โดยปัจจุบัน มีบริษัทจากต่างประเทศ 4 บริษัทมาลงทุน วงเงินกว่า 5,000 ล้านบาท เปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา
“ปี 2536 รัฐบาลกัมพูชาโดยสมเด็จฯ ฮุนเซน จึงกำหนดนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจใน จ.เกาะกง เพราะมองเห็นศักยภาพ เนื่องจากอยู่ติด จ.ตราด ของประเทศไทย จึงได้ตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเกาะกง (KOH KONG SEZ) ขึ้นในปี 2549 เน้นการลงทุนของนักลงทุนจากต่างประเทศ โดยรัฐบาลให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งใช้เวลาเพียง 3 ปี ก็มีนักลงทุนเข้ามาเป็นรายแรกคือ โรงงานจากบริษัท COM KO MOTOR จำกัด จากเกาหลีใต้ เป็นโรงงานประกอบรถยนต์ฮุนได จนปัจจุบัน มี 4 บริษัทเปิดกิจการอย่างเป็นทางการแล้ว”
นายบุญเลิศ กล่าวว่า สภาพของนิคมอุตสาหกรรมเกาะกงมีความพร้อมเรื่องพื้นที่ เพราะมีขนาดกว่า 2,100 ไร่ สาธารณูปโภค ทั้งน้ำ ไฟฟ้า ที่ซื้อจากประเทศไทย และเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมโยงได้ทุกทิศทาง โดยเฉพาะสาย 48 ที่ได้รับงบประมาณก่อสร้างจากประเทศไทยกว่า 1,000 ล้านบาท ทำให้ จ.เกาะกง มีเส้นทางเชื่อมไปยังกรุงพนมเปญ ระยะทางเพียง 297 กิโลเมตร เชื่อมท่าเรือสีหนุวิลล์ 233 กิโลเมตร ห่างจากฮาเทียน ประเทศเวียตนาม ทางตอนใต้ 285 กิโลเมตร ห่างจาก จ.ตราด 2 กิโลเมตร ห่างจากท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี 330 กิโลเมตร และห่างจากกรุงเทพฯ 400 กิโลเมตร โดยนิคมแห่งนี้จะส่งเสริมการมีงานทำในประเทศกัมพูชากว่า 7,000 ตำแหน่ง และสร้างรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 10,000 ล้านบาท
ด้านนายพัด สุภาภา หรือนายลี ยงพัด ประธานกรรมการบริหารบริษัทในเครือแอลวายพี กรุ๊ป และผู้แทนรัฐบาลกัมพูชาในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษเกาะกง กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมรวม โรงแรมรายใหญ่ของประเทศ และทำธุรกิจอยู่ใน จ.เกาะกง จึงคิดที่จะพัฒนาเกาะกง ซึ่งมีศักยภาพในฐานะที่เป็นจังหวัดชายแดน ติดทะเล พื้นที่เหมาะสมที่จะพัฒนาเป็นแหล่งลงทุนระดับนานาชาติได้ จึงได้เสนอให้รัฐบาลจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมขึ้น ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาเห็นชอบ และประกาศจัดตั้งอย่างเป็นทางการ พร้อมปรับปรุงเรื่องสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี ซึ่งนิคมแห่งนี้มีข้อได้เปรียบเทียบกว่านิคมแห่งอื่น เนื่องจากอยู่ห่างจากชายแดนไทยเพียง 2 กิโลเมตร ประชากรในจังหวัดพูดภาษาไทยได้ดี
“ปัจจุบัน ลูกค้าที่เข้ามาลงทุนประกอบด้วย Com Ko MOTOR จากเกาหลีใต้ ประกอบรถยนต์สำหรับขายตลาดในประเทศ Yazaki Products Corp จากญี่ปุ่น ผลิตชุดสายไฟรถยนต์ส่งออก KKN Apparel Company Limited โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าจากประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ผลิตเสื้อผ้ากีฬาสำหรับไนกี้ และอาดิดาส เพื่อส่งออก และ MIKASA Sport จากญี่ปุ่น ผลิตอุปกรณ์กีฬาชั้นนำเพื่อส่งออก”