ศูนย์ข่าวขอนแก่น-“พงศพัศ”เลขาป.ป.ส.บินตรงขอนแก่นเปิดแถลงข่าวจับกุมนักค้ากัญชารายใหญ่ภาคอีสานพร้อมยึดของกลางกัญชาแห้งอัดแท่งหนักกว่า2.5 ตัน เผยลอบลำเลียงมาจากลาวเข้าสกลนคร ขนมาพักเก็บไว้ในโกดังร้างริมถนนมัญจาคีรี-ชัยภูมิ เตรียมส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลย คาดถึงปลายทางมูลค่ามากกว่า 500 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้( 10 ต.ค.)พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.ขอนแก่น พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.4 พล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.เพิ่มศักด์ ภราดรศักดิ์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น นายเฉลิมชัย ชละธาร นายอำเภอมัญจาตรี จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.ไพโรจน์ ไทยพุทธา ผกก.สภ.มัญจาคีรี เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ตชด.23 ตชด.24 ตำรวจน้ำ และกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วมในการแถลงข่าวทะลายกลุ่มนายทุนข้ามชาติลักลอบค้ากัญชาล็อตใหญ่ ที่โกดังร้างไม่มีเลขที่ของนายสุขุม สุขโข อายุ 45 ปี หลัก กม. 2 ถนนสายมัญจาคีรี -.ขอนแก่น บ้านเขวา ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น
ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ในครั้งนี้ คือ นายสวน หรืออ้วน ทักษะชำนาญกิจ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 บ้านดงพัฒนา ต.ธาตุนาเวง อ.เมือง จ.สกลนคร เป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์แห่งหนึ่งในหมู่บ้านดงพัฒนา และเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างใน ต.ธาตุนาเวง
พร้อมยึดของกลางรถยนต์ปิกอัพยี่ห้อนิสสัน รุ่นบิ๊กเอ็ม สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บว - 3455 นครราชสีมา ซึ่งในรถยนต์มีผ้าใบคลุมรถมีกล่องกระดาษวางทับกัญชาแห้งอัดแท่งอยู่ด้านท้ายปิกอัพ 2 ห่อใหญ่ และในโกดังร้างมีกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 69 ห่อ มีกากมะพร้าววางทับเพื่อไม่ให้มีคนเห็นและดับกลิ่นกัญชาด้วย และมีกล่องกระดาษส่วนหนึ่งวางทับกัญชาอีกทบหนึ่ง รวมเป็นกัญชาแห้งอัดแท่งทั้งหมด 71 ห่อใหญ่ น้ำหนักประมาณ 2,500 ก.ก. ตกราคาห่อละ 1,200 บาทอยู่ใน สปป.ลาว มาขายอยู่ในภาคใต้ประเทศไทยราคาห่อละ 120,000 บาท และไปขายในประเทศออสเตรเลียราคาห่อละ 1,200,000 บาท รวมมูลค่ากัญชาทั้งหมดที่ส่งไปขายประเทศนอกราคามากกว่า 350 - 500 ล้านบาท
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากการสืบข่าวของสำนักงาน ป.ป.ส. ทราบว่า เมื่อคืนวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการลำเลียงกัญชาแห้งอัดแท่งประมาณ 2,000 กก.เข้ามาไว้ในโกดังที่ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น และอยู่ในระหว่างรอการลำเลียงเข้ามาเพิ่มเติมอีกประมาณ 1,000 กก. เพื่อรวบรวมบรรจุในกล่องสินค้านำส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยโกดังแห่งนี้ถูกอ้างว่าจะใช้เป็นโกดังโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าส่งต่างประเทศ และซึ่งมีการว่าจ้างแรงงานต่างด้าวชาวเวียดนามให้มาทำงานตัดเย็บเสื้อผ้า และลักลอบบรรจุกัญชาให้ หลังจากนั้นจะใช้รถยนต์ลำเลียงออกไปยังท่าเรือส่งเพื่อต่อไปยังต่างประเทศ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบสวนหาข่าวทราบว่า เครือข่ายการค้ายาเสพติดข้ามชาติตามแนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่ากลุ่มนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สกลนคร คือ นายสวน หรืออ้วน ทักษะชำนาญกิจจึงได้ติดต่อจัดหากัญชาแห้งอัดแท่งประมาณ 3-5 ตัน โดยมีนายเพ็ง ชาวลาว เมืองปากกระดิ่งเป็นผู้จัดหากัญชาแห้งอัดแท่ง เพื่อส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ตอนใน กทม. และปริมณฑล ก่อนส่งออกไปต่างประเทศ
ทั้งนี้ เชื่อว่าเป็นเครือข่ายเดียวกันกับกลุ่มผู้จัดหากัญชาที่ถูกตรวจยึดจำนวน 3,000 กก. ที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และกลุ่มผู้จัดส่งกัญชาไปยุโรปในกรณีการตรวจเครื่องอัดแท่งกัญชา จากการตรวจค้นโกดังชัยเกษมแพ็คกิ้ง ในการขยายผลจากกรณี เอเอฟพี จับกุมเฮโรอีน 252 กก. และยาไอซ์ 306 กก. ที่ประเทศออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ไปจับกุมนายสวนได้ที่บ้านพักใน จ.สกลนคร
พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.4 เปิดเผยเล่าว่า เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจภูธรภาค 4 ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. พร้อมด้วย ตชด.244 และตำรวจน้ำ ไปดักซุ่มอยู่หน้าโกดังร้างที่ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ที่มีคนงานเฝ้าอยู่ประมาณ 7 - 8 คน กระทั่งพบว่ามีชายคนหนึ่งได้ขับรถยนต์ปิกอัพบรรทุกกัญชาแห้งอัดแท่งใส่ไปที่ท้ายรถยนต์ปิกอัพ 2 ห่อใหญ่ คลุมทับด้วยกระดาษกล่องประมาณ 200 แผ่น และคลุมด้วยผ้าพลาสติกอย่างหนาขับออกจากโกดังร้างเพื่อจะออกมาที่ประตูเข้าออกของโรงงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กระจายกำลังเข้าจับกุม
คนงานทั้งหมดพากันวิ่งหนีเข้าไปในป่า เหลืออยู่เพียง 1 คน หนีไม่พ้นจึงได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม ขณะนี้นำไปสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อรอการขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งรายใหญ่และรายเล็ก
ด้าน พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ตั้งแต่ ป.ป.ส.จับกัญชาอัดแท่งจำนวน 3,000 กก.ได้ที่ จ.สระบุรี จึงได้มีการขยายผลเรื่อยมาและทราบว่าภายในเดือนตุลาคมจะมีการขนกัญชาอัดแท่งจำนวน 5,000 กก.ส่งไปขายประเทศออสเตรเลีย โดยรับมาจากฝั่งลาวเข้ามาในประเทศไทย และมาทราบว่ากัญชาล็อตแรกจำนวน 2,500 กก.ที่มีนายสวนเป็นผู้มาติดต่อเช่าโกดังร้างดังกล่าวจากนายสุขุม สุขโข จำนวน 3 เดือนๆละ 10,000 บาท และนายสวนได้เดินทางเข้าออกไปยัง สปป.ลาวเดือนละไม่น้อยกว่า 4 - 5 ครั้ง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ได้จับความเคลื่อนไหวของนาวสวนมาโดยตลอด
กระทั่งล็อตแรกได้มีกัญชาแห้งอัดแท่งที่นายสวนนำมาจาก สปป.ลาว จำนวน 2,500 กก. เข้ามากักเก็บไว้ในโกดังร้างที่ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น และทยอยส่งไปยังประเทศออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทะลายโกดังร้างดังกล่าวและเข้าตรวจยึดกัญชาที่อยู่ในโกดังทั้งในรถยนต์รวมทั้งหมด 71 ห่อใหญ่ น้ำหนัก 2,500 กก. ซึ่งผู้ต้องหาส่วนใหญ่หลบหนีไปได้ จับได้เพียง 1 คนรอการขยายผล และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมนายสวนได้ที่บ้าน จ.สกลนคร
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวต่อว่า นายสวนได้ปฏิเสธในข้อหามีกัญชาไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย แต่ยอมบอกว่าเป็นคนกลางประสานกับผู้ค้ากัญชารายใหญ่ติต่อกับผู้ขายในประเทศลาว ซึ่ง ป.ป.ส.ได้มีการขยายผลมาโดยตลอดจนทราบว่ากัญชาล็อตนี้ที่อยู่ในโกดังใน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น มีผู้เกี่ยวข้องประมาณ 6 คน ซึ่งอยู่ในกรุงเทพฯส่วนหนึ่ง จังหวัดในปริมณฑลอีกส่วนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ต้องจับกุมดำเนินคดีนายสวนที่มีความผิดลักลอบค้ากัญชา แม้ว่าจะปฏิเสธก็ตาม ซึ่งจะต้องส่งนายสวน พร้อมของกลางทั้งหมดให้พนักงานสอบสวน สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ดำเนินคดีตามกฎหมาย และยึดทรัพย์สิน รถยนต์กระบะ 1 คัน รถยนต์เก๋ง 4 คัน บ้านพร้อมที่ดิน 2 หลัง ทาวเฮ้าส์ 1 หลัง สมุดบัญชีธนาคารกรุงเทพฯ 2 เล่ม สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย 4 เล่ม ซึ่งมีมูลค่าทั้งหมดประมาณ 10 ล้านบาท และเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจทรัพย์สินทั้งหมดของนายสวนเพิ่มเติม เพื่อเตรียมการยึดทรัพย์อีกด้วย