ฉะเชิงเทรา - ราคาผักแปดริ้วแพงกระฉูดหนีมลพิษสภาพอากาศแปรปรวน ทำคะน้าพุ่งออกจากสวนแตะที่ 60 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่หน้าตลาดพุ่งสูงถึง 80 บาท ด้านเกษตรกรเผยไม่เคยปรากฏมาก่อน เหตุฝนตกหนักต่อเนื่องเกือบตลอดปีทำรากเน่า เกิดเชื้อราใบด่างเสียหายยับ ทำขาดตลาด
วันนี้ (13 ธ.ค.) เวลา 14.00 น. นางทองสุข รุ่งแสงสี อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/1 ม.4 ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เกษตรกรชาวสวนผักคะน้า กล่าวว่า ในปีนี้ราคาผลผลิตผักคะน้าที่ผลิตได้จากสวนขายได้ราคามาอย่างต่อเนื่องเกือบตลอดทั้งปีอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนนับแต่อดีตที่ตนเองเคยทำสวนผักมานานกว่า 40 ปี และเมื่อสองวันที่ผ่านมานี้ ราคาผักได้พุ่งสูงถึงกิโลกรัมละ 60 บาท ซึ่งเป็นราคาที่แม่ค้ามารับซื้อเองจากสวน ส่วนราคาขายหน้าตลาดนั้นอยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท หรือแพงกว่านั้นแล้วแต่ตลาด
ขณะที่ราคาก่อนหน้านี้เมื่อกว่า 1-2 ปีที่ผ่านมา ราคาผักคะน้าขายออกจากสวนอยู่ที่กิโลกรัมละ 10 บาทเท่านั้น ซึ่งสาเหตุนั้นเนื่องจากผลผลิตในพื้นที่มีน้อยลง เกษตรกรผลิตได้ไม่มากนัก เนื่องจากเมื่อช่วงปลายปี 54 ที่ผ่านมา มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องเกือบตลอดทั้งปีจนเกิดน้ำท่วมใหญ่ จึงทำให้เกิดโรคระบาดที่เกิดขึ้นกับผัก ทั้งเกิดเชื้อรา รากเน่า ใบด่าง หรือโรคตากบ ผลผลิตจึงลดลงจากความเสียหายที่เกิดขึ้น ต่อเนื่องมาจนถึงในปีนี้ที่ผ่านมาเกือบตลอดทั้งปี ราคาผักคะน้ายังคงทรงตัวอยู่ที่กิโลกรัมละ 40 บาท เพราะมีฝนตกชุกจนเกือบถึงปลายปี เช่นเดียวกัน
ประกอบกับในพื้นที่ยังเป็นพื้นที่น้ำเค็มจากปากอ่าวบางปะกงขึ้นถึง เกษตรกรบางรายที่ไม่มีพื้นที่ทำร่องเก็บกักน้ำจืดไว้ใช้ปลูกผักในช่วงฤดูแล้ง ก็จะไม่สามารถใช้พื้นที่ทำการปลูกผักได้ จึงยิ่งทำให้ผลผลิตในช่วงฤดูนี้ลดน้อยลงไปอีก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผลผลิตผักคะน้าจะขายได้ราคาดีก็ตาม แต่เกษตรกรก็ยังมีภาระเพิ่มมากขึ้นจากค่าแรงงานที่แพงขึ้น ค่าปุ๋ย ค่ายาที่แพงขึ้นเป็นเงาตามตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผลผลิตที่ขายได้ราคาดีกลับมีปริมาณไม่มาก จึงไม่ส่งผลดีอะไรมากนักในระยะสั้น และขณะนี้ ทราบว่าราคาผักก็กำลังจะมีแนวโน้มลดลงแล้วในอีกวันสองวันข้างหน้า