น้ำในเขต “พนัสนิคม-พานทอง” ชลบุรียังไม่ลด

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ปริมาณน้ำที่ท่วมขังในอำเภอพนัสนิคม และพานทอง เมืองชลบุรี ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ทำให้หลายหน่วยงานทั้งในพื้นที่ และใกล้เคียงต้องส่งเจ้าหน้าที่ และอุปกรณ์เร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำบางปะกง

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าหลังจังหวัดชลบุรี ได้ประกาศให้ 4 อำเภอในพื้นที่ ประกอบด้วย อำเภอบ่อทอง อำเภอเกาะจันทร์ อำเภอพนัสนิคม และอำเภอพานทอง เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติหลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา จนส่งผลให้เกิดน้ำหลาก น้ำล้นตลิ่งตามคู คลอง และเกิดน้ำท่วมสูง 50-100 เซนติเมตรในหลายพื้นที่

โดยเฉพาะในเขตอำเภอพนัสนิคม และพานทอง ที่ขณะนี้ น้ำยังคงท่วมขังสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ ซึ่งเป็นผลมาจากน้ำที่ไหลมาจากเขตอำเภอเกาะจันทร์ และฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในวันนี้ (21 ก.ย.) ปริมาณน้ำในเขตอำเภอเกาะจันทร์ ได้ลดลงแล้ว

ส่วนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน มีจำนวนรวม 848 ครัวเรือน ไร่นา 2,825ไร่ พืชไร่ 70 ไร่ พืชสวน 120 ไร่ บ่อปลา 100 บ่อ บ่อกุ้ง 5 บ่อ ไก่ 200 ตัว สิ่งสาธารณ ประโยชน์ เช่น ถนน 30 สาย คอสะพาน 2 แห่ง ประมาณการความเสียหายเบื้องต้น คิดเป็นเงินจำนวน 5,000,000 บาท

นายกอบชัย บุญอรนะ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี เผยว่า ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธาณภัยเขต 17 จันทบุรี ได้สนับสนุนเรือท้องแบน จำนวน 100 ลำ โดยมอบให้แก่อำเภอพนัสนิคม และพานทอง ไปแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่ และยังสนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง พร้อมติดตั้งบริเวณคลองชลประทานเขตรอยต่อ องค์การบริหารส่วนตำบลโคกขี้หนอน และองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะลอย อำเภอพานทอง เพื่อช่วยระบายน้ำออกจากพื้นที่ลงสู่แม่น้ำบางปะกง

นอกจากนั้น ยังได้จัดเรือดันน้ำ 6 ลำ ติดตั้งในเขตอำเภอพนัสนิคม ณ คลองน้ำเค็ม และในขตอำเภอพานทอง ณ คลองหัวไผ่ โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ยังได้สนับสนุนรถแบ็กโฮอีก 3 คัน ในการช่วยกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ การซ่อมแซมพื้นที่ถูกน้ำกัดเซาะ และเปิดทางน้ำในเพื้นที่อำเภอพนัสนิคม และพานทอง โดยมีกองบัญชาการช่วยรบที่ 1 สนับสนุนกำลังพล และยานพาหนะเข้าช่วยเหลือ การกั้นกระสอบทราย และเคลื่อนย้ายประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมอย่างเร่งด่วน