สกลนคร - เกษตรกรชาวสวนผู้ปลูกพริกพื้นที่จังหวัดสกลนครโอด สภาพอากาศแปรปรวน-แห้งแล้ง เกิดโรคระบาดต้นพริก เสียหายยับ ซ้ำราคาปีนี้ตกต่ำขายได้กิโลกรัมละ 25 บาท โดยราคาขายที่เกษตรกรสามารถอยู่ได้ต้องไม่ต่ำกว่า 50 บาท วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ
เกษตรกรในพื้นที่ตำบลขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร ยึดอาชีพเพาะปลูกพริกกันเป็นหลักรองจากทำนาทำไร่ สร้างรายได้แก่เกษตรกรในพื้นที่ปีละหลายสิบล้านบาท แต่ปีนี้ประสบปัญหาสภาพอากาศแปรปรวนอย่างมาก ทั้งยังเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อรา ทำลายและกัดกินต้นพริกเสียหายขยายเป็นวงกว้าง
นายสินชัย สิงวงศา อายุ 45 ปี หนึ่งในเจ้าของสวนพริกชาวบ้านโคกเลาะ ต.ขมิ้น เปิดเผยว่า ปีนี้ชาวสวนที่ปลูกพริกประสบปัญหาเรื่องของเชื้อรา คือโรคลำต้นดำ ที่ขณะนี้กำลังแพร่ระบาดและขยายเป็นวงกว้าง สาเหตุน่าจะเกิดจากอากาศที่แปรปรวนและมีความแห้งแล้ง เบื้องต้นได้เร่งฉีดพ่นยาเพื่อฆ่าเชื้อโรคแต่ก็ยังไม่สามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโรคนี้ได้ ซึ่งภายในเดือนนี้จะสามารถเก็บผลผลิตได้ทั้งหมด แต่มีบางส่วนที่ทยอยเก็บไปบ้างแล้ว
อย่างไรก็ตาม นอกจากประสบปัญหาโรคเชื้อราแพร่ระบาดแล้ว ในปีนี้ราคาพริกสดก็ตกต่ำขายได้เพียงกิโลกรัมละ 25 บาท ซึ่งหากราคาพริกสดตกต่ำเหมือนตอนนี้ชาวสวนขาดทุนแน่ โดยราคาขายที่เกษตรกรจะสามารถอยู่ได้อย่างน้อยไม่ควรต่ำกว่า กิโลกรัมละ 50 บาท ชาวสวนพริกต่างลุ้นว่าในราวปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าราคาพริกน่าจะดีขึ้น เพราะทุกปีที่ผ่านมาช่วงราคาพริกขยับตัวดีขึ้นอยู่ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม และมกราคม
“ที่ผ่านมาราคาพริกสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 100-120 บาท สร้างรายได้แก่เกษตรกรเป็นอย่างดี และพริกที่กำลังเก็บเกี่ยวผลผลิตตอนนี้จะสามารถเก็บไปได้ถึงเดือนเมษายนปีหน้า” นายสินชัยกล่าว และเล่าต่อว่า
สำหรับรายได้ของตนเฉลี่ยในแต่ละปีหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 200,000-300,000 บาท ใช้พื้นที่ปลูกพริกกว่า 5 ไร่ ส่วนรายได้เจ้าอื่นก็ขึ้นกับพื้นที่ปลูก แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตอนนี้คือการกำจัดเชื้อราลำต้นดำที่กำลังแพร่ระบาด หากช้าไปจะสร้างความเดือดร้อนแก่เกษตรกรชาวสวนพริกเป็นอย่างมาก