แม่ฮ่องสอน - ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนเตรียมนำทีมกรรมการ TBC ฝ่ายไทย หอบ 7 ข้อเสนอร่วมหารือพม่ากลางเดือนนี้ เน้นสกัดเผาป่าหน้าแล้ง-ปราบยาเสพติด
รายงานข่าวจากจังหวัดแม่ฮ่องสอนแจ้งว่า นางนฤมล ปาลวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.อ.บรรณวัฒน์ พรหมจรรย์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 17 จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมาร์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ประชุมเพื่อหารือกรรมการ TBC ฝ่ายไทย เตรียมเข้าร่วมประชุม TBC ครั้งที่ 20 ณ ที่ว่าการอำเภอแม่แจ๊ะ จังหวัดบอละแคะ สหภาพเมียนมาร์ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 ธ.ค. 55 ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ ได้ข้อสรุปว่า คณะกรรมการ TBC ฝ่ายไทยฝ่ายเตรียมข้อหารือจำนวน 7 ข้อเพื่อเสนอคณะกรรมการ TBC ฝ่ายเมียนมาร์รับทราบ คือ 1. ตามที่เมียนมาร์ได้จัดตั้งหน่วยภาคทหารบกตะวันออกกลาง ซึ่งมีพื้นที่ติดกับไทยด้านอำเภอเมือง กับอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ฝ่ายไทยขอสอบถามฝ่ายเมียนมาร์จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น (TBC) ระหว่างไทยกับเมียนมาร์ในพื้นที่ดังกล่าวหรือไม่ ถ้าหากมีการจัดตั้งขอให้ระบุสถานที่ให้ฝ่ายไทยทราบด้วยเพื่อการติดต่อประสานงานต่อไป
2. ในห้วงฤดูแล้งของทุกๆ ปีมีราษฎรเผาวัชพืช รวมทั้งจุดไฟเผาป่า ซึ่งมีเหตุผลหลายประการ จนทำให้เกิดมลพิษ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ จึงขอความร่วมมือจากฝ่ายเมียนมาร์ช่วยกวดขัน และชี้แจงให้ราษฎรเข้าใจถึงผลกระทบที่ได้รับ
3. ขอความร่วมมือในการปราบปรามยาเสพติดที่แพร่ระบาดในพื้นที่ตามแนวชายแดน และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งกำจัดพืชเสพติดโดยเฉพาะการปลูกฝิ่น ซึ่งเป็นปัญหาและเป็นอันตรายต่อคนทั้งโลก
4. ขอความร่วมมือให้ดำรงการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างทหารไทยกับทหารเมียนมาร์ ซึ่งที่ผ่านมาปฏิบัติได้ดีมาก จึงขอให้มีการพัฒนาสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่อง เช่น การลาดตระเวนร่วมกัน การบันทึกภาพร่วมกัน การทำกิจกรรมระหว่างหมู่บ้านตามแนวชายแดนร่วมกัน โครงการหมู่บ้านคู่ขนาน
5. ขอให้ฝ่ายเมียนมาร์สนับสนุนผู้ประกอบการฝ่ายไทยที่เข้ามาค้าขายตามช่องทางจุดผ่อนปรนการค้า
6. ความเป็นไปได้การค้าชายแดนในการที่จะเปิดการค้าชายแดน โดยให้ฝ่ายไทยได้มีการนำเสนอให้ระดับรัฐบาลแล้ว เพื่อยกระดับให้ช่องทางบ้านห้วยต้นนุ่น (BP13) เป็นจุดผ่านแดนถาวร ดังนั้นจึงขอสอบถามฝ่ายเมียนมาร์ว่ามีความพร้อมหรือไม่ที่จะเปิดการค้ากับฝ่ายไทย
7. เนื่องจากห้วงที่ผ่านมาได้มีราษฎรจากประเทศเมียนมาร์ลักลอบเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและถูกเจ้าหน้าที่ทางการไทยจับกุม จากการสอบถามทราบว่าได้ถูกหลอกจากกลุ่มขบวนการให้เข้ามารับจ้างทำงานในประเทศไทย ทำให้ต้องสูญเสียเงินจำนวนมากให้กลุ่มขบวนการ ฉะนั้นจึงขอความร่วมมือประเทศเมียนมาร์ได้ประชาสัมพันธ์ และแจ้งเตือนราษฎรที่จะลักลอบหลบหนีเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย
รายงานข่าวจากจังหวัดแม่ฮ่องสอนแจ้งว่า นางนฤมล ปาลวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.อ.บรรณวัฒน์ พรหมจรรย์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 17 จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมาร์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ประชุมเพื่อหารือกรรมการ TBC ฝ่ายไทย เตรียมเข้าร่วมประชุม TBC ครั้งที่ 20 ณ ที่ว่าการอำเภอแม่แจ๊ะ จังหวัดบอละแคะ สหภาพเมียนมาร์ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 ธ.ค. 55 ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ ได้ข้อสรุปว่า คณะกรรมการ TBC ฝ่ายไทยฝ่ายเตรียมข้อหารือจำนวน 7 ข้อเพื่อเสนอคณะกรรมการ TBC ฝ่ายเมียนมาร์รับทราบ คือ 1. ตามที่เมียนมาร์ได้จัดตั้งหน่วยภาคทหารบกตะวันออกกลาง ซึ่งมีพื้นที่ติดกับไทยด้านอำเภอเมือง กับอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ฝ่ายไทยขอสอบถามฝ่ายเมียนมาร์จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น (TBC) ระหว่างไทยกับเมียนมาร์ในพื้นที่ดังกล่าวหรือไม่ ถ้าหากมีการจัดตั้งขอให้ระบุสถานที่ให้ฝ่ายไทยทราบด้วยเพื่อการติดต่อประสานงานต่อไป
2. ในห้วงฤดูแล้งของทุกๆ ปีมีราษฎรเผาวัชพืช รวมทั้งจุดไฟเผาป่า ซึ่งมีเหตุผลหลายประการ จนทำให้เกิดมลพิษ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ จึงขอความร่วมมือจากฝ่ายเมียนมาร์ช่วยกวดขัน และชี้แจงให้ราษฎรเข้าใจถึงผลกระทบที่ได้รับ
3. ขอความร่วมมือในการปราบปรามยาเสพติดที่แพร่ระบาดในพื้นที่ตามแนวชายแดน และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งกำจัดพืชเสพติดโดยเฉพาะการปลูกฝิ่น ซึ่งเป็นปัญหาและเป็นอันตรายต่อคนทั้งโลก
4. ขอความร่วมมือให้ดำรงการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างทหารไทยกับทหารเมียนมาร์ ซึ่งที่ผ่านมาปฏิบัติได้ดีมาก จึงขอให้มีการพัฒนาสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่อง เช่น การลาดตระเวนร่วมกัน การบันทึกภาพร่วมกัน การทำกิจกรรมระหว่างหมู่บ้านตามแนวชายแดนร่วมกัน โครงการหมู่บ้านคู่ขนาน
5. ขอให้ฝ่ายเมียนมาร์สนับสนุนผู้ประกอบการฝ่ายไทยที่เข้ามาค้าขายตามช่องทางจุดผ่อนปรนการค้า
6. ความเป็นไปได้การค้าชายแดนในการที่จะเปิดการค้าชายแดน โดยให้ฝ่ายไทยได้มีการนำเสนอให้ระดับรัฐบาลแล้ว เพื่อยกระดับให้ช่องทางบ้านห้วยต้นนุ่น (BP13) เป็นจุดผ่านแดนถาวร ดังนั้นจึงขอสอบถามฝ่ายเมียนมาร์ว่ามีความพร้อมหรือไม่ที่จะเปิดการค้ากับฝ่ายไทย
7. เนื่องจากห้วงที่ผ่านมาได้มีราษฎรจากประเทศเมียนมาร์ลักลอบเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและถูกเจ้าหน้าที่ทางการไทยจับกุม จากการสอบถามทราบว่าได้ถูกหลอกจากกลุ่มขบวนการให้เข้ามารับจ้างทำงานในประเทศไทย ทำให้ต้องสูญเสียเงินจำนวนมากให้กลุ่มขบวนการ ฉะนั้นจึงขอความร่วมมือประเทศเมียนมาร์ได้ประชาสัมพันธ์ และแจ้งเตือนราษฎรที่จะลักลอบหลบหนีเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย