ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจ บก.สส.ภ.จว.ขอนแก่นบุกจับนายดาบตำรวจสังกัดสืบสวนภาค 4 ขณะเสพยาบ้าในห้องพักพร้อมแฟนสาว เผยผู้ต้องหาเป็นตำรวจชุดปราบยาเสพติด มีพฤติกรรมทั้งเสพทั้งรับยาบ้ามาขายให้วัยรุ่นในเมืองขอนแก่น ต้นสังกัดเคยตักเตือนแต่ยังแอบใช้ตำแหน่งหน้าที่บังหน้าค้ายาเสพติด อย่างไรก็ตาม หลังถูกจับเจ้าตัวปฏิเสธเสียงแข็งแต่แฟนสาวรับสารภาพสิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ (6 พ.ย.) พ.ต.ท.ภาคภูมิ พิศมัย รอง ผกก.กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.อนุศักดิ์ ศักดาวัชรานนท์ รอง ผกก.ปฏิบัติราชการ กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น, พ.ต.ท.นรวัตน์ คำภิโล สว.กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น, ร.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวาสน์ รองสารวัตรสืบฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น ได้ควบคุมตัว ด.ต.กิตติ ศีรภิรมย์ อายุ 45 ปี ผบ.หมู่งานปราบยาเสพติด กองบังคับการตำรวจสืบสวนภาค 4 และ น.ส.อมรรัตน์ หรือติ๊ก พิมพา อายุ 28 ปี ที่อยู่ 263 หมู่ที่ 18 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองของแก่น
โดยเช้าวันเดียวกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองได้ที่ห้องเช่าเลขที่ 102 ภายในแมนชั่นเพชรรารมย์ เพลส ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่บ้านโนนชัย ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ขณะที่ทั้งคู่กำลังเสพทั้งยาบ้า, ยาไอซ์ภายในห้องพัก ซึ่งจากการติดตามพฤติกรรมก่อนหน้านี้ทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองได้ขายยาเสพติดให้กลุ่มผู้เสพในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง
พ.ต.ท.ภาคภูมิ พิศมัย รอง ผกก.กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจงานปราบยาเสพติด จากกองบังคับการตำรวจสืบสวนภาค 4 มีพฤติกรรมใช้อาชีพข้าราชการตำรวจบังหน้า แต่ลับหลังกลับลักลอบค้ายาเสพติดเสียเอง ทั้งที่ตัวเองเป็นตำรวจ ปฏิบัติงานอยู่ในสายงานปราบปรามยาเสพติดด้วย ผู้บังคับบัญชาจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด พดส.กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น ทำการสืบสวนติดตามดูพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด
จนกระทั่งพบว่า ด.ต.กิตติ ศีรภิรมย์ มีพฤติกรรมลักลอบนำยาเสพติดมาจำหน่ายให้กลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ จ.ขอนแก่นจริงตามที่สายข่าวรายงานมา ด้วยการรับยาบ้าและยาไอซ์จาก นายทรงฤทธิ์ หรือโบกี้ ศรีวิชา และนายณัฐพงษ์ หรือแบงค์ พิมพา เครือข่ายยาเสพติดในเขตพื้นที่นวนคร จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นญาติของแฟนสาวคือ น.ส.อมรรัตน์ หรือติ๊ก พิมพา
พ.ต.ท.ภาคภูมิเล่าต่อว่า ด้วยเหตุที่ผู้บังคับบัญชา ภ.จว.ขอนแก่น เห็นว่า ด.ต.กิตติ ศีรภิรมย์ เป็นตำรวจอยู่ในสายงานอาชีพเดียวกัน ผู้บังคับบัญชาจึงได้ประสานไปยัง บก.สส.ภ.4 ต้นสังกัดของ ด.ต.กิตติ รายงานพฤติกรรมในการพัวพันกับการค้ายาเสพติดให้ต้นสังกัดทราบ โดยต้นสังกัดได้ตักเตือนไปแล้ว แต่ ด.ต.กิตติยังไม่เลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซ้ำยังหนีงานหน้าที่รับผิดชอบอยู่บ่อยครั้ง
และล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 5 พ.ย. 55 ที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากสายข่าวอีกว่า ด.ต.กิตติ และ น.ส.อมรรัตน์ได้เช่าห้องพักในเพชรรารมย์ เพลส ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่บ้านโนนชัย ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น เปิดห้องเสพและขายยาเสพติดทั้งยาบ้า, ยาไอซ์ภายในห้องพัก มีวัยรุ่นลูกค้าเข้า-ออกหอพักทั้งวันทั้งคืน ตำรวจชุด พดส.กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่นจึงได้ส่งสายเข้าไปล่อซื้อยาบ้าจาก ด.ต.กิตติ และ น.ส.อมรรัตน์มาจำนวน 4 เม็ดในราคา 1,600 บาท
จากนั้นชุดจับกุมได้ไปประสานขอความร่วมมือจากผู้ที่ดูแลหอพัก ตรวจสอบข้อมูลที่ทั้งสองคนได้เช่าห้องพบว่าผู้ต้องหาทั้งสองได้เปิดเช่าห้องพักตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. 2555 เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการจับกุมตัวทั้งสองคนเอาไว้ได้พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 3 เม็ด พร้อมยาไอซ์ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องพัก ยาไอซ์ชนิดเกล็ดสีขาวบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสชนิดกดปิดดึงเปิดปากถุงได้จำนวน 6 ถุง น้ำหนักรวมถุงบรรจุ 3.9 กรัม
สอบสวนเบื้องต้น ด.ต.กิตติให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วน น.ส.อมรรัตน์รับว่าได้ขายยาบ้าจำนวน 4 เม็ดให้สายข่าวจริง โดยยาบ้าดังกล่าวได้ซื้อมาจากนายทรงฤทธิ์ หรือโบกี้ ศรีวิชา ที่นำมาส่งให้จำนวนหนึ่งเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 55 ที่ผ่านมา ส่วนยาไอซ์ได้รับเอามาจากนายณัฐพงษ์ หรือแบงค์ พิมพา น้องชายที่รับยาไอซ์มาจากเครือข่ายยาเสพติดในเขตพื้นที่นวนคร จ.ปทุมธานี
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “เสพ และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ยาไอซ์ ) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่นดำเนินคดีต่อไป
