ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “เป็ดเหลิม” โผล่โคราชมอบนโยบายปราบยาเสพติดปี 56 แก่ผู้ว่าฯ-ผู้การ-ผกก. และฝ่ายปกครอง 20 จว.อีสานเป็นภาคแรก เน้นทำ 3 หลักควบคู่กัน ทั้งปราบปราม-บำบัดรักษา-ป้องปราม ย้ำทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันทำงาน ขู่ ตร.หากพบเข้าไปเกี่ยวข้องยาเสพติด หรือผู้การปล่อยปละละเลยย้ายสถานเดียวไม่เลี้ยงแน่ ยันไม่ใช่เวทีเสวนาปรองดอง จวก “อภิสิทธิ์” เข้าใจผิดเอง
วันนี้ (28 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่อาคารสุรพัฒน์ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ศพส.) เดินทางมามอบนโยบายปราบปรามยาเสพติดตามแผนปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืนปี 2556 ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร และนายอำเภอ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โดยมี พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.และเลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. พล.ท.จีระศักดิ์ ชมประสพ แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ท.เชิด ชูเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.4 และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรวมจำนวนกว่า 2,000 คน
นอกจากนี้ยังมีนักการเมืองในพื้นที่ภาคอีสานมาให้การต้อนรับ เช่น นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และ ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย นายโสภณ เพชรสว่าง นายอดิศร เพียงเกษ นายสุชาติ ภิญโญ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นครราชสีมา นายวิรัช รัตนเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และนายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ซึ่งนำคนเสื้อแดงกว่า 20 คนมาตั้งแถวมอบดอกไม้ให้กำลังใจ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ด้วย
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุมว่า ขอให้ทุกฝ่ายเร่งแก้ไขจุดอ่อนให้มีประสิทธิภาพเพื่อไม่ให้เยาวชนเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้เสพสารเสพติดรายใหม่เพิ่มขึ้น และให้ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรในระดับหมู่บ้าน หรือชุมชน โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วนในพื้นที่ และเน้นหนักการป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดตัวใหม่ โดยเฉพาะยาไอซ์
รัฐบาลทุกรัฐบาลตั้งใจแก้ปัญหายาเสพติดทั้งนั้น แต่ความเอาจริงเอาจังต่างกัน ในขณะที่ตนมากำกับดูแลนั้นได้กำหนดให้เรื่องยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ เป็นพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ผู้ว่าฯ และนายอำเภอทุกคนต้องร่วมมือในการป้องปราม อย่าเปิดสถานบริการเพิ่ม เน้นเอาคนมาบำบัดรักษา การแก้ไขปัญหาจะเบาบางลง
“ผมย้ายพวกท่านไม่ได้ แต่เสนอความคิดให้นายกรัฐมนตรีทราบได้ และบอกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ ถ้าเป็นตำรวจ น้องๆ ฟังไว้ หากปล่อยปละละเลยเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ย้ายสถานเดียว และจะมีการประเมินงาน และจะเปลี่ยนแนวทางการแต่งตั้งโยกย้ายใหม่ ไม่ใช่ปีหนึ่งย้ายที ไม่เอา ผมบอก ผบ.ตร.แล้วต้องประเมินการทำงาน ถ้าผู้การจังหวัดไหนไม่ทำงาน ผมไม่ได้มาข่มขู่ แต่ผมมาขอร้องจริงๆ ไม่อย่างนั้นบ้านเมืองไปไม่ไหว อย่าไปบอกธุระไม่ใช่ มันเป็นธุระ มันเป็นพลวัตอันสำคัญของพวกเรา สถานการณ์ยาเสพติดวันนี้ ถามว่ากุมสภาพได้หรือไม่ ได้ 70% แต่ตกค้างอยู่ฝั่งโน้นอีก 500 ล้านเม็ด” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า นโยบายยาเสพติดปี 2555 เน้นไปที่การปราบปราม แต่ในปี 2556 นี้จะเน้นการทำ 3 ขนานควบคู่กันไป คือ ปราบปรามต่อเนื่อง และให้หนักมากขึ้น พร้อมการบำบัดรักษาและการป้องปราม โดยการบำบัดกับป้องปรามนั้น นายอำเภอกับผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยได้มาก โดยเฉพาะการดูแลสถานบริการ หากปล่อยให้มีมากก็ไม่ดี เรื่องนี้ได้ให้นโยบายไปแล้ว
จากนี้ไปต้องเอกซเรย์ในหมู่บ้าน ตำบล เพื่อเชิญชวนประชาชนที่หลงผิดติดยาเสพติดมาเข้ารับการบำบัดรักษา เพราะเราไม่ดำเนินคดี ถือว่าผู้เสพเป็นผู้ป่วย โดยจะให้เน้นทำในแนวทางเดียวกันทั้งประเทศ ในส่วนของภาคอีสานถือเป็นภาคแรกที่ตนเดินทางมามอบนโยบายเพราะมีประชากรอยู่มาก จากนี้ไปก็จะเดินทางไปมอบนโยบายที่ภาคเหนือ
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวต่อว่า ผลการดำเนินการที่ผ่านมาถือว่าพอใจ แต่ยังไม่ค่อยดีใจเท่าที่ควรเพราะยังมีผู้รับการบำบัดน้อย เรื่องการปราบปรามยาเสพติดนั้นนอกจาก พ.ต.ท.ทักษิณปราบแล้วมายุคตนที่ปราบได้ดีที่สุด รัฐบาลชุดที่แล้วไม่ได้ทำอะไรเลย 2 ปี 8 เดือนนิ่งเฉย
ต่อข้อถามที่ว่า การประชุมครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการเสวนาปรองดองหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าไม่เกี่ยวเลย เพราะมีกรรมการอีกชุดหนึ่งที่ทำเรื่องนี้ นั่นเป็นเรื่องของการปรองดอง เป็นเรื่องความสามัคคี แต่วันนี้ตนมอบนโยบายยาเสพติด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน เข้าใจผิด ท่านนึกว่าจะมาถามว่าเห็นด้วยหรือไม่ซึ่งมันไม่ใช่ เวทีนี้ ตนมีหน้าที่กำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องการให้ผู้กำกับการตำรวจกับนายอำเภอทำงานด้วยกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดทำงานกับผู้การตำรวจจังหวัด อย่างอื่นไม่มีอะไร คนละเรื่องกับการเสวนา ท่านเข้าใจผิดไปเอง