หน.ปชป.เผยกรอบเวลาลงตัว กำชับ ส.ส.ทำตามข้อบังคับ หวังซักฟอกราบรื่นไร้ประท้วง วอนนายกฯ รับฟัง-ตอบด้วยตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องจำนำข้าวที่ “ทักษิณ” บงการ ส่วนเรื่องไฟใต้หวั่นปรับ “บิ๊กอ๊อด” ออกขาดความต่อเนื่อง ย้อนกลับ “เฉลิม” ปราบยาเสพติดมีคนดูอยู่แล้ว ด้าน “สมศักดิ์” โยนมติของวิป 3 ฝ่าย กำหนดวันอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ แนะนายกฯ ควรอยู่ร่วมญัตติซักฟอก
วันนี้ (2 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ได้หารือกับประธานสภาผู้แทนราษฎร และวิปรัฐบาลแล้ว ไม่มีปัญหาเรื่องกรอบเวลาที่ฝ่ายค้านขอไว้อย่างน้อย 2 วัน และอยากให้การอภิปรายในครั้งนี้เป็นไปด้วยความราบรื่น ไม่อยากให้มีการประท้วงเกิดขึ้นบ่อยครั้งเหมือนที่ผ่านมา ดังนั้นขอเรียกร้องให้ ส.ส.ปฎิบัติตามข้อบังคับ เพื่อให้การอภิปรายเป็นไปด้วยความราบรื่น ไม่วุ่นวาย และไม่กระทบต่อระบบของสภา
ขณะเดียวกัน ได้กำชับสมาชิกพรรคที่อภิปรายทุกคนให้อยู่ในกรอบ พร้อมกันนี้ขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ทำตามข้อบังคับในฐานะประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นที่พี่งที่หวังของประชาชน ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ควรให้ความสำคัญต่อสภาในการมารับฟังและตอบด้วยตัวเอง เพราะแม้อภิปรายเรื่องจำนำข้าว ก็อภิปรายเรื่องนโยบาย ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นประธานนโยบายข้าว และในฐานะหัวหน้ารัฐบาลควรจะตอบ ซึ่งจะรวมถึงประเด็นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าเรื่องจำนำข้าวคิดเองคนเดียว
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาภาคใต้ของรัฐบาลว่า สิ่งที่รัฐบาลทำขณะนี้ทำให้ขาดความต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ออกจากรองนายกรัฐมนตรี และคนในรัฐบาลยังบอกว่าไม่จำเป็นต้องมีรองนายกรัฐมนตรีไปดูแล ซึ่งน่าเป็นห่วง และสิ่งที่ฝ่ายค้านเสนอมาโดยตลอดคือขอให้มีฝ่ายนโยบายระดับสูงเข้าไปรับผิดชอบ และทุกครั้งที่พบกับผู้บัญชาการทหารบก ก็ยืนยันว่าไม่มีความประสงค์จะนำทหารมานำการเมือง แต่วันนี้สิ่งที่ตนเห็นคือการเมืองไม่ยอมนำการทหาร และปัดความรับผิดชอบ ซึ่งหากจะอ้างว่าทหารรับผิดชอบอยู่แล้ว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีคงไม่ต้องดูแลปัญหายาเสพติด เพราะมีคนดูอยู่แล้ว
ด้านนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีที่ทางวุฒิสภาไม่พอใจการจัดวันอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ โครงการจำนำข้าว ในวันที่ 28 พ.ย. แต่ต้องการอภิปรายในวันที่ 23-24 พ.ย.นี้ว่า เป็นเรื่องที่วิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และวิปวุฒิสภาต้องไปหารือกัน แต่ทราบว่านายกรัฐมนตรีอาจติดภารกิจในวันดังกล่าว ไม่สามารถอยู่ร่วมประชุมได้ อย่างไรก็ตาม หากการอภิปรายไม่ไว้วางใจสามารถลงมติในวันที่ 27 พ.ย.ได้ ก็จะมีเวลาเหลือให้วุฒิสภาอภิปราย 2 วัน คือวันที่ 27-28 พ.ย. แต่ก็ขึ้นอยู่กับการหารือกันของวิปทั้ง 3 ฝ่ายว่าท้ายที่สุดแล้วจะให้วุฒิสภาเปิดอภิปรายได้วันใด
ส่วนนายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องร่วมประชุมตลอดการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่นั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎรเห็นว่าตามหลักการแล้วนายกรัฐมนตรีก็ควรอยู่ร่วมประชุมตลอด แต่ทราบว่านายกรัฐมนตรีมีภารกิจ ทางวิปรัฐบาลก็พยายามประสานเวลาให้นายกรัฐมนตรีมาชี้แจงด้วยตัวเองแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ตอบรับมาร่วมรับฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้