ศูนย์ข่าวศรีราชา - นิคมฯ ปิ่นทอง สอบถามความคิดเห็นประชาชน เพื่อผุดโครงการนิคมฯ ปิ่นทอง 5 ในเขตพื้นที่ตำบลเขาคันทรง ในเนื้อที่กว่า 1,400 ไร่ ด้านประชาชนหวั่นการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมตามแหล่งชุมชน
วันนี้ (30 พ.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 องค์การบริหารส่วนตำบลเขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด เปิดประชุมการประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็นประชาชน ครั้งที่ 1 โครงการนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง โครงการ 5 ที่มีโครงการจะก่อสร้างในพื้นที่ตำบลเขาคันทรง โดยต้องร่างขอบเขตการศึกษารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยมีประชาชนกว่า 200 คน ร่วมรับฟังครั้งนี้
การสอบถามในครั้งนี้ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้าน หลังโครงการดังกล่าวจะมาก่อสร้างในพื้นที่ตำบลเขาคันทรง ในเนื้อที่ทั้งสิ้น 1,472.5 ไร่ ดังนั้น ทางบริษัทฯจึงต้องสอบถามความคิดเห็นของชาวบ้าน ว่าดีหรือไม่อย่างไร เพื่อนำข้อเสนอแนะไปปรับปรุงแก้ไขในแผนการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ก่อนจะนำเสนอหน่วยงานที่รับผิดชอบต่อไป
ด้านนายมะลิ กลั่นด้วง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เขาคันทรง กล่าวว่า โครงการดังกล่าว จะมาเกิดในพื้นที่ของ อบต.เป็นเรื่องที่ดีที่จะมาสร้างความเจริญเติบโตในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ และงานทำเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมีโรงงานอุตสาหกรรมเกิดขึ้นก็จะมีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
ดังนั้น ทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบ และชาวบ้านจะต้องช่วยกันเฝ้าดูแลผลกระทบที่จะเกิดขึ้นด้วย เพราะหากโรงงานเกิดขึ้นแล้วและมีปัญหา โรงงานนั้นก็คงอยู่ไม่ได้ เพราะจะถูกประชาชนต่อต้าน และขับไล่หากไม่ดีจริง
สำหรับโครงการนิคมปิ่นทอง 5 ได้รับแจ้งว่า เป็นกลุ่มโรงงานด้านผลผลิตจากการเกษตร กลุ่มเซรามิก กลุ่มอุตสาหกรรมเบา กลุ่มผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มเคมีภัณฑ์ กระดาษและพลาสติก และกลุ่มบริการสาธารณูปโภค หรืออุตสาหกรรมสนับสนุน
ด้านนายสมพงษ์ ลีลาเบญจกุลพร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.เขาคันทรง กล่าวถึงโครงการอุตสาหกรรมที่มาก่อสร้างในพื้นที่เขาคันทรงนั้น ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะกากอุตสาหกรรมขอให้เข้มงวด และตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะที่ผ่านมา ชาวบ้านประสบปัญหาเรื่องการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม ซึ่งไม่ทราบว่ามาจากโรงงานไหน แต่มาสร้างผลกระทบในพื้นที่เป็นอย่างมาก จึงขอฝากโครงการปิ่นทอง 5 ให้เฝ้าระวังปัญหาในเรื่องนี้
ขณะนี้ปัญหาการลักลอบทิ้งสารโซเวล ริมถนนสาย 331 กว่า 20,000 ลิตร ได้สร้างปัญหา และยังไม่สามารถดำเนินการแก้ไขได้ เนื่องจากจะต้องใช้งบประมาณกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งหน่วยงานในพื้นที่ไม่มีงบประมาณดังกล่าว จึงต้องปล่อยทิ้งไว้ โดยเพียงนำดินมาฝังกลบไว้เท่านั้น แต่กลิ่นเหม็นยังฟุงกระจายอยู่ตลอดเวลา
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า สำหรับจุดที่ลักลอบทิ้งสารโซเวลนั้น เดิมทางแขวงการทางได้ขุดร่องน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้ดินและทรายไหลลงมาบนพื้นถนน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุในการสัญจร แต่มีรถบรรทุกสารเคมีโซเวลลักลอบนำสารดังกล่าวมาปล่อยทิ้งบริเวณดังกล่าว โดยไม่สามารถหาผู้กระทำผิด หรือบริษัทที่ปล่อยปละละเลยให้เกิดปัญหาเช่นนี้
