กาญจนบุรี - ชาวนากาญจนบุรีเฮ กขช.ประจำจังหวัดฯ ประชุมลงมติเห็นชอบ 9 ต่อ 6 อนุมัติให้โรงสีนอกพื้นที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือก พร้อมทั้งขยายเวลา และเพิ่มจุดรับจำนำเพิ่ม
ผู้สื่อข่าวรายความคืบหน้ากรณีที่เกษตรกรทำนาจังหวัดกาญจนบุรี กว่า 300 คนพร้อมรถบรรทุกข้าวเปลือก 10 ตัน เดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อยื่นหนังสือ และร้องขอให้นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ให้ความช่วยเหลือในการเปิดจุดรับจำนำข้าวเปลือกเพิ่ม พร้อมทั้งให้มีการอนุมัติให้โรงสีนอกพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการรับจำนำข้าว และขอให้ขยายเวลาการรับจำนำข้าว โดยมีนายแรม เชียงกา กลุ่มเกษตรกรทำนาจังหวัดกาญจนบุรีเป็นแกนนำ มีนายชัยวัฒน์ ธนวัฒน์สุวรรณ ส.อบจ.เขต อ.ห้วยกระเจา เป็นตัวแทนยื่นหนังสือผ่าน นางพรรษวรรณ จันทร์ดี หัวหน้าสำนักงานการค้าภายใน จ.กาญจนบุรี
ล่าสุด เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (28 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายแรม เชียงกา แกนนำกลุ่มเกษตรกรทำนาจังหวัดกาญจนบุรีว่า เมื่อเวลา 16.00 น.ของวันที่ 27 พ.ย.55 ที่ผ่านมา ตนพร้อมแกนนำได้เดินทางไปที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อประชุมร่วมกับนายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ที่เป็นประธานในการประชุม มีคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ระดับจังหวัดฯ ทั้งนี้ เพื่อลงมติตามคำเรียกร้องของกลุ่มเกษตรกรทำนาที่ขอให้โรงสีนอกพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกประจำปี 2555/56
โดยการประชุมใช้เวลานานเกือบ 4 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ จากนั้น นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากห้องประชุม คงเหลือไว้เฉพาะคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ระดับจังหวัดฯ จำนวน 15 คน ที่เดินทางมาประชุม จากทั้งหมด 20 คนเพื่อลงมติว่าจะอนุมัติให้มีการอนุญาตให้โรงสีนอกพื้นที่เข้ามารับจำนำข้าวเปลือกในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีได้หรือไม่
โดยผลการลงประชามติของ กขช.ระดับจังหวัดฯ ทั้ง 15 คนเห็นด้วยกับกลุ่มเกษตรกรทำนาที่เรียกร้องให้โรงสีนอกพื้นที่เข้ามารับจำนำข้าวในพื้นที่ได้จำนวน 9 คน และไม่เห็นด้วยจำนวน 6 คน
สำหรับการลงมติจะยืดเวลารับจำนำข้าวออกไปจากเวลา 08.30 น.ถึงเวลา 19.00 น.ของทุกวัน เป็นเวลา 08.30 น.ถึงเวลา 22.00 น.ของทุกวัน คณะกรรมการทั้งหมดได้มีการพูดคุย และมีมติในที่ประชุมว่า การยืดเวลาในการจำนำข้าวสามารถทำได้ ให้โรงสี และชาวนาตกลงกันเอง แต่การจำนำข้าวทุกครั้งชาวนา และโรงสีจะต้องแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบทุกครั้งเพื่อการตรวจสอบ และเพื่อเป็นการป้องกันการทุจริต ในส่วนการเรียกร้องของกลุ่มเกษตรกรทำนาที่ขอให้มีการเปิดจุดรับจำนำข้าวเปลือกเพิ่มขึ้นนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อนุมัติตามคำเรียกร้องไปตั้งแต่วันที่วันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา รวมทั้งหมด 15 จุด
หลังจาก กขช.มีมติในที่ประชุมเห็นด้วยที่จะให้มีโรงสีนอกพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการรับจำนำข้าวเปลือกในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี 9 ต่อ 6 ถือว่ามติเป็นเอกฉันท์ ทำให้เกษตรกรทำนามีทางเลือกตามที่ต้องการ สามารถต่อรองราคากับโรงสีนั้นๆได้
ส่วนการป้องกันการทุจริตนั้น ทุกครั้งที่มีการรับจำนำข้าวชาวนา และโรงสีจะต้องแจ้งให้ กขช.ทราบทุกครั้ง เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปตรวจสอบ เชื่อว่าชาวนาจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ตนขอขอบคุณคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติประจำจังหวัดทุกท่าน ที่เข้าใจหัวอกคนทำนา หลังจากกลุ่มเกษตรกรทำนาทราบมติดังกล่าวต่างก็แสดงความดีใจเป็นอย่างยิ่ง
ผู้สื่อข่าวรายความคืบหน้ากรณีที่เกษตรกรทำนาจังหวัดกาญจนบุรี กว่า 300 คนพร้อมรถบรรทุกข้าวเปลือก 10 ตัน เดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อยื่นหนังสือ และร้องขอให้นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ให้ความช่วยเหลือในการเปิดจุดรับจำนำข้าวเปลือกเพิ่ม พร้อมทั้งให้มีการอนุมัติให้โรงสีนอกพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการรับจำนำข้าว และขอให้ขยายเวลาการรับจำนำข้าว โดยมีนายแรม เชียงกา กลุ่มเกษตรกรทำนาจังหวัดกาญจนบุรีเป็นแกนนำ มีนายชัยวัฒน์ ธนวัฒน์สุวรรณ ส.อบจ.เขต อ.ห้วยกระเจา เป็นตัวแทนยื่นหนังสือผ่าน นางพรรษวรรณ จันทร์ดี หัวหน้าสำนักงานการค้าภายใน จ.กาญจนบุรี
ล่าสุด เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (28 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายแรม เชียงกา แกนนำกลุ่มเกษตรกรทำนาจังหวัดกาญจนบุรีว่า เมื่อเวลา 16.00 น.ของวันที่ 27 พ.ย.55 ที่ผ่านมา ตนพร้อมแกนนำได้เดินทางไปที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อประชุมร่วมกับนายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ที่เป็นประธานในการประชุม มีคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ระดับจังหวัดฯ ทั้งนี้ เพื่อลงมติตามคำเรียกร้องของกลุ่มเกษตรกรทำนาที่ขอให้โรงสีนอกพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกประจำปี 2555/56
โดยการประชุมใช้เวลานานเกือบ 4 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ จากนั้น นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากห้องประชุม คงเหลือไว้เฉพาะคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ระดับจังหวัดฯ จำนวน 15 คน ที่เดินทางมาประชุม จากทั้งหมด 20 คนเพื่อลงมติว่าจะอนุมัติให้มีการอนุญาตให้โรงสีนอกพื้นที่เข้ามารับจำนำข้าวเปลือกในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีได้หรือไม่
โดยผลการลงประชามติของ กขช.ระดับจังหวัดฯ ทั้ง 15 คนเห็นด้วยกับกลุ่มเกษตรกรทำนาที่เรียกร้องให้โรงสีนอกพื้นที่เข้ามารับจำนำข้าวในพื้นที่ได้จำนวน 9 คน และไม่เห็นด้วยจำนวน 6 คน
สำหรับการลงมติจะยืดเวลารับจำนำข้าวออกไปจากเวลา 08.30 น.ถึงเวลา 19.00 น.ของทุกวัน เป็นเวลา 08.30 น.ถึงเวลา 22.00 น.ของทุกวัน คณะกรรมการทั้งหมดได้มีการพูดคุย และมีมติในที่ประชุมว่า การยืดเวลาในการจำนำข้าวสามารถทำได้ ให้โรงสี และชาวนาตกลงกันเอง แต่การจำนำข้าวทุกครั้งชาวนา และโรงสีจะต้องแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบทุกครั้งเพื่อการตรวจสอบ และเพื่อเป็นการป้องกันการทุจริต ในส่วนการเรียกร้องของกลุ่มเกษตรกรทำนาที่ขอให้มีการเปิดจุดรับจำนำข้าวเปลือกเพิ่มขึ้นนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อนุมัติตามคำเรียกร้องไปตั้งแต่วันที่วันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา รวมทั้งหมด 15 จุด
หลังจาก กขช.มีมติในที่ประชุมเห็นด้วยที่จะให้มีโรงสีนอกพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการรับจำนำข้าวเปลือกในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี 9 ต่อ 6 ถือว่ามติเป็นเอกฉันท์ ทำให้เกษตรกรทำนามีทางเลือกตามที่ต้องการ สามารถต่อรองราคากับโรงสีนั้นๆได้
ส่วนการป้องกันการทุจริตนั้น ทุกครั้งที่มีการรับจำนำข้าวชาวนา และโรงสีจะต้องแจ้งให้ กขช.ทราบทุกครั้ง เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปตรวจสอบ เชื่อว่าชาวนาจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ตนขอขอบคุณคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติประจำจังหวัดทุกท่าน ที่เข้าใจหัวอกคนทำนา หลังจากกลุ่มเกษตรกรทำนาทราบมติดังกล่าวต่างก็แสดงความดีใจเป็นอย่างยิ่ง
