“ธงทอง” ชี้ “สำนักงานพิงคนคร” น่าเกิดก่อนสิ้นปี-เล็งจัดงานโปรโมตปลาย ธ.ค.นี้

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ปลัดสำนักนายกฯ ขึ้นเชียงใหม่ตรวจเยี่ยม “ไนท์ซาฟารี-อุทยานหลวงฯ-ศูนย์ประชุมฯ” เผยก่อนสิ้นปีมีลุ้นเห็น “สถาบันพัฒนาพิงคนคร” เกิดเป็นทางการ เสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งคณะทำงานดูแลเบื้องต้นก่อนกรรมการเฉพาะกาลเข้ารับงาน แนะการโอนย้ายต้องดูแลให้ดีอย่าให้กระทบเจ้าหน้าที่ เล็งจัดงานโปรโมต 24-25 ธ.ค.นี้ พร้อมเชิญ “ยิ่งลักษณ์” ร่วมงาน

วันนี้ (27 พ.ย.) ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีการจัดตั้งสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

การประชุมดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่นายธงทองได้เดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งเข้าตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเมื่อวานนี้ (26 พ.ย.) ขณะที่ในช่วงเช้าวันนี้นายธงทองยังได้เข้าตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของอุทยานหลวงราชพฤกษ์ และศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษาอีกด้วย

นายธงทองได้เปิดเผยต่อที่ประชุมว่า การจัดตั้งสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ในเบื้องต้นจะมีการรวมเอา 2 องค์กร ได้แก่ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษามาอยู่ในความดูแลของสำนักงานพัฒนาพิงคนคร โดยขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ในระหว่างการนำร่างพระราชกฤษฎีกาให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบ ซึ่งน่าจะแล้วเสร็จและสามารถนำเข้าสู่การพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 4 ธ.ค.นี้ ซึ่งหากเป็นไปตามกำหนดการดังกล่าวคาดว่าพระราชกฤษฎีกาการจัดตั้งสถาบันพิงคนครจะสามารถประกาศใช้ได้ก่อนสิ้นเดือน ธ.ค.นี้

นายธงทองกล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกหลังจากมีการรวมทั้งสองหน่วยงานเข้าด้วยกัน ได้แก่ การบริหารจัดการในเรื่องทรัพย์สิน หนี้สิน และบุคลากร โดยเฉพาะในส่วนของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีที่มีมากกว่าศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ซึ่งการดำเนินการต่างๆ ในเรื่องนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องบริหารจัดการให้เหมาะสม และพยายามให้เกิดผลกระทบต่อพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ซึ่งจะต้องปรับเปลี่ยนสังกัดให้น้อยที่สุด

ส่วนเรื่องต่อมาที่ต้องให้ความสำคัญคือเรื่องของการวางแผนบริหารงานและการเชื่อมโยงแต่ละส่วนเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาด เนื่องจากทั้งสององค์กรต่างมีแผนงานและแนวทางการดำเนินงานที่ได้วางเอาไว้แล้ว ซึ่งต้องมาดูว่าจะเชื่อมโยงเข้าหากันอย่างไร รวมทั้งการเชื่อมต่อไปยังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้เข้ามารวมอยู่ในสำนักงานพัฒนาพิงคนคร แต่จากพื้นที่ที่มีความเชื่อมโยงกันจึงควรที่จะมีการหารือถึงแนวทางการเชื่อมโยงการทำงานหรือการทำการตลาดระหว่างกัน

นายธงทองยังกล่าวด้วยว่า ตามแผนการบริหารจัดการสำนักงานพัฒนาพิงคนครนั้นจะมีการตั้งคณะกรรมการเฉพาะกาลขึ้นมารับผิดชอบ ก่อนที่จะมีการตั้งคณะกรรมการอย่างเป็นทางการต่อไป อย่างไรก็ตาม ในช่วงรอยต่อของการรวบหน่วยงานต่างๆ เข้าด้วยกัน และการรอให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกาลเข้ามาดูแลนั้น ควรที่จะมีคณะทำงานเข้ามาดูแลเรื่องต่างๆ ไปก่อนเพื่อไม่ให้งานต่างๆ ขาดช่วง โดยเห็นว่าคณะทำงานดังกล่าวควรจะอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อความสะดวกในการดำเนินงาน

นอกจากนี้ นายธงทองยังได้นำเสนอและขอความเห็นจากที่ประชุมถึงการจัดกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์การก่อตั้งสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) หากพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานประกาศใช้ทันภายในเดือน ธ.ค.นี้ โดยในเบื้องต้นได้กำหนดที่จะจัดกิจกรรมขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 24-25 ธ.ค.นี้ และจะมีการเชิญนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานในกิจกรรมดังกล่าว ขณะที่รูปแบบการจัดงานนั้นจะมีการหารือและกำหนดอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป