xs
xsm
sm
md
lg

“บรรหาร” แจงเตรียมส่งต่อศูนย์ประชุมฯ หลัง รบ.เตรียมตั้ง “สำนักงานพัฒนาพิงคนคร” ดูแล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ -“บรรหาร” เผยโล่งอกหลังรัฐบาลเตรียมตั้ง “สำนักงานพัฒนาพิงคนคร” ระบุดูแลจะรับผิดชอบศูนย์ประชุมฯ จนก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมด หลังจากนั้นเตรียมส่งต่อสำนักงานฯ รับผิดชอบ แจง ครม.ควบรวม 3 หน่วย “ไนท์ซาฟารี-พืชสวนโลก-ศูนย์ประชุม” เป็นสำนักงานฯ ตั้งเป้าพัฒนาการท่องเที่ยว เชื่อเป็นประโยชน์ต่อชาวเชียงใหม่แน่ ส่วนเรื่องการบริหารจัดการบอกขึ้นอยู่กับสำนักงานฯ ตัดสินใจ

วันนี้ (5 พ.ย.) นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการประชุมรายงานผลการก่อสร้าง โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ ถ.คันคลองชลประทาน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่

ในการประชุมดังกล่าว หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้รายงานผลการดำเนินงาน ซึ่งในปัจจุบันการก่อสร้างต่างๆ เสร็จสิ้นเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงในส่วนของพื้นที่ประทับที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน เม.ย. 2556 ขณะที่การปรับปรุงถนนทั้ง 3 เส้นทางรอบบริเวณศูนย์ประชุมฯ นั้น เส้นทางบริเวณด้านหน้าและข้างศูนย์ประชุมฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย.นี้ ส่วนถนนที่เชื่อมต่อไปยังถนนสายเชียงใหม่-แม่ริม คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงกลางเดือน ธ.ค.นี้

ขณะเดียวกัน นายบรรหารได้แจ้งต่อที่ประชุมด้วยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบที่จะก่อตั้งสำนักงานพัฒนาพิงคนครขึ้น ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยหน่วยงานดังกล่าวจะเป็นการควบรวม 3 หน่วยงาน ซึ่งประกอบด้วยศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และอุทยานหลวงราชพฤกษ์เป็นหน่วยงานเดียวในรูปแบบองค์กรมหาชน

นายบรรหารกล่าวว่า สำนักงานพัฒนาพิงคนครที่จะก่อตั้งขึ้นนั้นจะมีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการ และมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ โดยหลังจากก่อตั้งและเริ่มดำเนินการทางสำนักงานจะเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบสถานที่ทั้ง 3 แห่ง ขณะเดียวกันก็จะมีการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงาน ซึ่งจะทำหน้าที่ร่างยุทธศาสตร์การดำเนินการของสำนักงานพัฒนาพิงคนครให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน

ส่วนการบริหารจัดการศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินั้น นายบรรหารระบุว่า สำนักงานพัฒนาพิงคนครจะเป็นผู้เข้าดูแลรับผิดชอบในการบริหารจัดการศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ซึ่งรวมไปถึงงบประมาณต่างๆ ที่มีการอนุมัติใช้ในปีงบประมาณ 2556 อย่างไรก็ตาม งบประมาณในส่วนที่เริ่มดำเนินการไปแล้วอย่างเช่นการก่อสร้างเพิ่มเติมต่างๆ นั้น ขอให้หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ พร้อมกันนี้ นายบรรหารยังได้แจ้งให้หน่วยงานต่างๆ ที่มีภาระหน้าที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจัดเตรียมข้อมูลต่างๆ ที่ได้ดำเนินการเพื่อส่งมอบการดำเนินงานต่อไปยังสำนักงานพัฒนาพิงคนคร ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน ม.ค. 2556 เป็นต้นไป

นายบรรหาร ซึ่งได้เข้าตรวจสอบผลการก่อสร้างตามบริเวณต่างๆ ภายในอาคารศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติร่วมกับนายชุมพลและคณะ เปิดเผยว่า รู้สึกโล่งใจที่รัฐบาลได้จัดตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้นมาดูแลศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ รวมทั้งอุทยานหลวงราชพฤกษ์ และเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งในระยะยาวการรวมทั้ง 3 หน่วยงานมาอยู่ภายใต้การบริหารจัดการร่วมกันจะเกิดความคล่องตัวและเกิดประโยชน์ต่อจังหวัดเชียงใหม่มากยิ่งขึ้น โดยรองนายกรัฐมนตรี ตน และหน่วยงานต่างๆ ที่ดูแลรับผิดชอบการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินั้นจะทำหน้าที่จนกว่างานก่อสร้างทั้งหมดจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ จากนั้นในส่วนของการบริหารจัดการจะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาพิงคนครที่จะเป็นผู้รับผิดชอบต่อไป

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติพิจารณาการจัดตั้งสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยจะควบรวมและโอนกิจการโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จากองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน (องค์การมหาชน) อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จากสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) และศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ จากสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามาบริหารจัดการร่วมกัน โดยจัดตั้งเป็นองค์การมหาชนตามพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. 2542 ภายใต้ชื่อ “สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน)” ภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี

ตามแผนงานดังกล่าว สำนักงานพัฒนาพิงคนครจะพัฒนาพื้นที่ทั้งหมดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและสปาที่มีคุณภาพสูง ซึ่งนอกจากจะตั้งเป้าในการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งภายในและภายนอกประเทศแล้ว ยังตั้งเป้าที่จะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตัวภายในเวลา 5 ปีอีกด้วย โดยจะกำหนดกรอบระยะเวลา 5 ปีในการประเมินผล หากแผนงานดังกล่าวประสบความสำเร็จก็จะมีการดำเนินการและขยายผลต่อ แต่หากไม่สำเร็จก็จะยกเลิกหรือถ่ายโอนพื้นที่ไปอยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรอื่นแทน











กำลังโหลดความคิดเห็น