เครือข่ายพีมูฟอุบลฯ จี้ “ยิ่งลักษณ์” เร่งออกโฉนดชุมชน

อุบลราชธานี - ตัวแทนชาวบ้านเครือข่ายพีมูฟ 8 ชุมชนในจังหวัดอุบลราชธานี ยื่นหนังสือเรียกร้องรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” ให้ครม.มีมติออกโฉนดชุมชน หวังลดความขัดแย้งและตามสังหารชาวบ้าน ชี้ทั้งประเทศออกไปแค่ 2 แปลงที่นครปฐม และเชียงใหม่ ที่เหลือยังค้างเติ่งอีก 38 แปลง

วันนี้ (21 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ตัวแทนเครือข่ายขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ (P Move) ชาวบ้านจาก 8 ชุมชนที่ยื่นขอออกโฉนดชุมชนของจังหวัดอุบลราชธานีประมาณ 30 คน รวมตัวที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานียื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ ครม.มีมติออกโฉนดชุมชนนำร่อง 38 แห่งทั่วประเทศเพื่อยุติความขัดแย้งกับนายทุนที่พยายามเข้ายึดครองที่ดินใช้ปลูกพืชเศรษฐกิจ

นางหนูเดือน แก้วบัวขาว ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อนุมัติให้มีการออกโฉนดชุมชนจำนวน 2 แปลงที่ จ.นครปฐม และ จ.เชียงใหม่ แต่มาถึงรัฐบาลนี้ยังไม่มีการอนุมัติให้ออกโฉนดชุมชนเพิ่มเติมทั้งที่ผ่านการพิจารณาของคณะทำงานแล้ว ทำให้กลุ่มทุนพยายามบุกเข้ายึดที่ดินทำกินของชาวบ้านไปปลูกพืชเศรษฐกิจ และทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว

กระทั่งมีการจ้างมือปืนมาสังหารชาวบ้านที่ออกมาคัดค้านการบุกรุกถือครองที่ดินของนายทุนเสียชีวิตเมื่อเดือนมกราคม ปี 2553 จำนวน 1 ราย และล่าสุดเมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา นางมณทา ชูแก้ว และนางปราณี บุญรักษ์ ชาวบ้านชุมชนคลองไทรพัฒนา ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเรียกร้องให้ออกโฉนดชุมชนเพื่อให้ชุมชนร่วมบริหารจัดการที่ดินร่วมกันแทนการยึดครองของนายทุน ถูกมือปืนดักสังหารเสียชีวิตอีก 2 ราย

จึงต้องการเรียกร้องให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ รีบดำเนินการออกโฉนดชุมชนเพื่อไม่ให้ที่ดินตกไปอยู่ในมือของนายทุน และยุติการฆ่าประชาชนที่พยายามเรียกร้องให้ครอบครัวมีที่ดินทำกินในรูปแบบของชุมชนแทนการออกโฉนดแบบเป็นรายๆ เพราะอนาคตที่ดินทั้งหมดจะถูกเปลี่ยนมือไปอยู่กับนายทุนเหมือนที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ซึ่งนายสุรสิทธิ์ เกิดผล ผู้ช่วยป้องกันจังหวัด ได้อออกมารับหนังสือเพื่อส่งให้รัฐบาลรับทราบในวันเดียวกัน