ลำปาง - นักธุรกิจสาวลำปางสุดทน ขึ้นป้ายด่า กฟผ. “เมื่อไหร่จะมาเอาเสามึงคืนไป” หลังยอมให้การไฟฟ้าฯ วางเสาแรงสูงในที่ดินชั่วคราว แก้ปัญหาผู้รับเหมาส่งมอบงานไม่ได้ แต่พอถึงกำหนดกลับไม่ยอมย้ายเสาออก ทำโครงการพัฒนาที่ดินหรูร้างทันที เสียหายกว่าร้อยล้านบาท
วันนี้ (21 พ.ย. 55) น.ส.อมลยา เจนตวนิชย์ เจ้าของที่ดินซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายเลี่ยงเมือง ตำบลชมพู อำเมืองลำปาง ได้พาผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบที่ดินของตนเอง หลังทนไม่ไหวที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไม่ยอมย้ายเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงออกจากพื้นที่ ทั้งๆ ที่กำหนดจะต้องย้ายให้แล้วเสร็จภายในปี 2554 เมื่อสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไม่มีคำตอบให้ จนต้องขึ้นป้ายด่าประจานและทวงถามไว้หน้าโครงการหมู่บ้านว่า “เมื่อไหร่จะมาเอาเสามึงคืนไป”
น.ส.อมลยาเปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา ทางการไฟฟ้าฯ ได้มีโครงการก่อสร้างระบบโครงข่ายไฟฟ้า 230 กิโลโวลต์ จากสถานีย่อยแม่เมาะ 3 ข ไปยังสถานีไฟฟ้าย่อยแม่เมาะ 4 ข สถานีไฟฟ้าย่อยลำปาง 1 ข สถานีไฟฟ้าย่อยลำพูน 1 และสถานีไฟฟ้าย่อยลำพูน 2 ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการขายระบบส่งไฟฟ้าระยะที่ 11 โดยคณะรัฐมนตรีอนุมัติและให้ดำเนินการเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2550
โดยโครงการดังกล่าวได้กำหนดเขตบริเวณที่จะเดินสายไฟฟ้าตัดผ่านในลำปาง ครอบคลุม อำเภอเกาะคา อำเภอเมือง อำเภอแม่ทะ อำเภอแม่เมาะ และอำเภอห้างฉัตร ซึ่งในเขตเมืองปรากฏว่าตามผังมีการตัดผ่านใกล้กับพื้นที่ของตน แต่เมื่อแสดงแผนที่แล้วปรากฏว่ามีเสาไฟฟ้าแรงสูง 1 ต้นที่ต้องปักอยู่กลางถนน
แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้มาขอร้องกับทางตนว่า หากเป็นเช่นนั้นทางบริษัทที่ดำเนินการก็จะไม่สามารถส่งมอบงานได้ จึงขอย้ายเสาที่จะปักอยู่กลางถนนเข้ามาไว้ในพื้นที่ของตนเองก่อนและจะย้ายออกภายในปี 2554 และระหว่างนี้ทาง กฟผ.จะจ่ายค่าชดเชยให้ก่อนเป็นเงิน 67,546.25 บาท ซึ่งตนเองได้ทำหนังสือคัดค้านและแย้งค่าชดเชยดังกล่าวไป แต่ก็ไม่เป็นผล จึงได้รอจนถึงปลายปี 2554 ซึ่งครบกำหนดที่ กฟผ.จะต้องทำการย้ายเสาดังกล่าวออกจากพื้นที่ แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบ เมื่อทวงถามกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่มีใครให้คำตอบได้
น.ส.อมลยาเปิดเผยอีกว่า ที่ดินของตนถือว่าอยู่ในทำเลที่ดี เพราะมีถนนสายหลักตัดผ่าน และได้ทำโครงการบ้านจัดสรร คือ บ้านเวียงน้ำวัง รวมพื้นที่ถึง 16 ไร่ วางแบบการก่อสร้างไว้ 54 หลัง จำหน่ายหลังละตั้งแต่ 1.3-3.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการหากจำหน่ายได้ทั้งหมด รวมประมาณ 103 ล้านบาท
ซึ่งเริ่มต้นโครงการมีลูกค้าวางเงินดาวน์ และเริ่มก่อสร้างแล้วถึง 5 หลัง แต่เมื่อ กฟผ.ไม่ยอมย้ายเสาส่งขนาดใหญ่ออกนอกพื้นที่ของตน ทั้งๆ ที่มีกำหนดระยะเวลาแน่นอน และที่ผ่านมาทางตนเห็นแก่ประโยชน์ของประชาชน และหน่วยงานของรัฐ จึงได้ยอมให้มีการตั้งเสาในพื้นที่ของตนเองไปก่อน ทำให้โครงการบ้านจัดสรรต้องชะงัก ธนาคารเริ่มเห็นความไม่แน่นอน ลูกค้าเริ่มลังเล เนื่องจากทัศนวิสัยไม่เอื้อให้ทำการก่อสร้างโครงการอีกต่อไป จนทำให้โครงการฯ ต้องชะลอและหยุดไปโดยปริยาย ต้องปล่อยบ้านที่เคยมีการก่อสร้างทิ้งร้างไว้ มีหนี้สิ้นที่ต้องชำระคืนกับธนาคารที่ได้อนุมัติโครงการมาก่อนหน้านี้จำนวนมา
“แม้ต้องการขายทิ้งก็ไม่มีคนซื้อ เนื่องจากเสาส่งไฟฟ้าขนาดใหญ่ปักอยู่หน้าหมู่บ้านพอดี ทำให้ตนต้องขึ้นป้ายด่าประจาน และทวงถามว่าเมื่อไหร่จะเอาเสาดังกล่าวออกไป หรือหากไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกไปได้ กฟผ.ก็ต้องซื้อที่ดินของตนเองไป โดยต้องซื้อเท่ากับจำนวนที่ได้รับความเสียหายจริงๆ ไม่ใช่เวนคืนโดยที่รัฐจะจ่ายเท่าไหร่ก็ได้ตามความพอใจโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่แท้จริงของเจ้าของที่” น.ส.อมลยากล่าวย้ำ