xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ แถลงปลดแล้วป้ายเชียร์ รบ.ทับป้าย “พระราชินี”-นายกแจงติดตั้งเองไม่ขออนุญาต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

(จากซ้ายไปขวา) พล.ต.ต.เกษมสันต์ บุญญกาญจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายรุ่งปรีชา ปั๋นแก้ว นายกเทศมนตรีตำบลป่าแดด ในการแถลงข่าวกรณีการติดตั้งป้ายทับป้ายเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในพื้นที่ของเทศบาลตำบลป่าแดด
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ เชียงใหม่เชิญ ผบก.ภูธรจังหวัด-นายกเทศมนตรีป่าแดดแถลงด่วนหลังกรณีป้ายเชียร์ รบ.ทับป้ายเฉลิมพระชนมพรรษาพระราชินีว่อนทั่วเน็ต แจงหลังทราบเรื่องเทศบาลสั่งปลดป้ายแล้ว ด้านนายกแจงร้านป้ายเอามาติดเองไม่แจ้งเทศบาลฯ ก่อน พอทราบเรื่องสั่งปลดทันที เตรียมหาตัวคนสั่งทำ-ติดตั้ง พร้อมยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เผยผู้ว่าฯ-ผบก.ถึงกับอึ้งหลังเห็นภาพ รับไม่บังควรจริง

วันนี้ (16 พ.ย.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เกษมสันต์ บุญญกาญจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และนายรุ่งปรีชา ปั๋นแก้ว นายกเทศมนตรีตำบลป่าแดด ร่วมกันแถลงข่าวกรณีการติดป้ายที่มีข้อความสนับสนุนนายกรัฐมนตรีทับป้ายเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในพื้นที่เทศบาลตำบลป่าแดด หลังจากที่มีผู้นำภาพดังกล่าวไปเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตและโซเชียลเน็ตเวิร์ก และก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์การกระทำดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

โดยนายธานินทร์กล่าวว่า ได้รับรายงานทางโทรศัพท์ในช่วงเช้าวันนี้ว่ามีการติดตั้งป้ายปิดทับป้ายที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงได้สั่งการให้นายชัยสิทธิ์ รัตนชัยสิทธิ์ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ ทำการตรวจสอบ พบว่ามีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจริงในพื้นที่เทศบาลตำบลป่าแดด จึงได้สอบถามนายรุ่งปรีชาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และตัดสินใจจัดการแถลงข่าวขึ้นเพื่อให้สื่อมวลชนได้รับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอย่างชัดเจน

รวมทั้งเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดหรือการนำเรื่องดังกล่าวไปเป็นประเด็นหรือกระแสต่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด โดยนายรุ่งปรีชาได้ชี้แจงต่อตนว่าหลังจากทราบเรื่องได้สั่งการให้มีการรื้อถอนป้ายดังกล่าวออกไปแล้ว

นายธานินทร์กล่าวต่อว่า หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าวแล้วจะได้ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำการลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ไว้เป็นหลักฐาน ส่วนการดำเนินการในขั้นตอนต่อไปนั้น หากมีผู้ร้องเรียนหรือฟ้องร้องในกรณีดังกล่าวก็จะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ขณะที่นายรุ่งปรีชาชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า ภาพที่ปรากฏตามเว็บไซต์และโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ นั้น คาดว่าถ่ายขึ้นเมื่อวานนี้ (15 พ.ย.) เวลาประมาณ 15.00 น. โดยในช่วงเวลาดังกล่าวตนไม่ทราบว่ามีการติดตั้งป้ายดังกล่าวขึ้นในพื้นที่ ประกอบกับมีภารกิจเข้าร่วมประชุมหารือเรื่องการจัดงานลอยกระทง

ต่อมาได้มีผู้แจ้งให้ทราบว่ามีการนำแผ่นป้ายมาปิดทับป้ายพระบรมฉายาลักษณ์ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของเทศบาลฯ ทำการรื้อถอนป้ายดังกล่าวออกแล้วในช่วงเช้าวันนี้ (16 พ.ย.) เวลาประมาณ 08.00 น. โดยจากการตรวจสอบของทางเทศบาลฯ พบว่าการติดตั้งป้ายดังกล่าวกระทำโดยร้านผลิตป้ายโฆษณา และไม่มีการขออนุญาตต่อทางเทศบาลฯ ในการติดตั้งป้ายแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้เทศบาลฯ กำลังตรวจสอบว่าร้านผลิตป้ายโฆษณาแห่งใดเป็นผู้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว

นายรุ่งปรีชากล่าวต่อว่า การสั่งทำแผ่นป้ายดังกล่าวขึ้นนั้นเข้าใจว่าเกิดจากกลุ่มคนที่มีความชื่นชอบและให้การสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งยอมรับว่าในพื้นที่นั้นมีอยู่จริง อย่างไรก็ตาม การติดตั้งแผ่นป้ายทับป้ายที่มีพระบรมฉายาลักษณ์น่าจะเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์และความมักง่ายของผู้ติดตั้ง รวมทั้งไม่มีการประสานตามขั้นตอนมายังเทศบาลฯ เพื่อขออนุญาตและแจ้งจุดติดตั้งต่อทางเทศบาลฯ ก่อน เพราะหากเทศบาลฯ ทราบเรื่องก่อนจะไม่ยินยอมให้ติดตั้งป้ายในบริเวณดังกล่าวอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ นายปรีชายืนยันต่อสื่อมวลชนว่าไม่ทราบว่าใครเป็นผู้สั่งทำแผ่นป้ายดังกล่าว รวมทั้งยืนยันด้วยว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตหรือติดตั้งแผ่นป้ายดังกล่าวนี้ใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมทั้งเปิดเผยด้วยว่าเตรียมที่จะแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ติดตั้งแผ่นป้ายดังกล่าวอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวได้นำภาพที่มีการเผยแพร่ตามเว็บไซต์และโซเชียลเน็ตเวิร์กให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ได้ชมแล้ว นายธานินทร์ และ พล.ต.ต.เกษมสันต์ต่างยอมรับว่าการติดตั้งป้ายดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และคงจะต้องมีการสืบสวนหาตัวผู้ผลิตและติดตั้งมาดำเนินคดีต่อไป โดยมอบหมายสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่เป็นผู้รับผิดชอบ

พร้อมกันนี้ นายธานินทร์ยังได้ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชน ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตและโซเชียลเน็ตเวิร์กให้ระมัดระวังและใช้ดุลพินิจในการเผยแพร่หรือส่งต่อภาพดังกล่าว เนื่องจากอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และอาจมีความผิดตามกฎหมาย

กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ (15 พ.ย.) ได้มีการนำภาพการติดตั้งแผ่นป้ายขนาดใหญ่สีแดง ที่มีข้อความว่า “ประชาชนตำบลป่าแดด สนับสนุนรัฐบาล ฯพณฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน” ขึ้นไปปิดทับป้ายเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งเทศบาลตำบลป่าแดดได้ติดตั้งไว้ ณ ใกล้ทางลอดใต้สะพานข้ามแม่น้ำปิง ตรงข้ามกับโรงเรียนพิมานเด็ก ซึ่งหลังจากภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก ก่อนที่ทางเทศบาลตำบลป่าแดดจะได้ทำการรื้อถอนป้ายดังกล่าวออกไป และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้เชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชนดังกล่าว

อนึ่ง ในช่วงก่อนที่จะมีการแถลงข่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้กล่าวชี้แจงในเบื้องต้นกับสื่อมวลชน โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่าแผ่นป้ายซึ่งมีข้อความสนับสนุนรัฐบาลดังกล่าวนั้น นายกเทศมนตรีตำบลป่าแดดเป็นผู้สั่งทำขึ้น แต่ว่าผู้ติดตั้งกลับดำเนินการโดยพลการและรู้เท่าไม่ถึงการณ์จนทำให้เกิดภาพที่ไม่บังควรขึ้น แต่ในระหว่างการแถลงข่าวนายกเทศมนตรีตำบลป่าแดดกลับชี้แจงผู้สื่อข่าวว่าไม่ทราบว่าใครเป็นผู้สั่งทำป้ายดังกล่าว พร้อมทั้งยืนยันด้วยว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นใดๆ ในเรื่องดังกล่าวทั้งสิ้น

นายรุ่งปรีชา ปั๋นแก้ว นายกเทศมนตรีตำบลป่าแดด
สภาพล่าสุดของบริเวณที่เกิดเหตุ หลังจากเทศบาลตำบลป่าแดดได้ทำการปลดป้ายที่มีข้อความสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งปิดทับป้ายเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถออกไปแล้ว

กำลังโหลดความคิดเห็น