โรงไฟฟ้าบัวสมหมายท้าอำนาจรัฐ เบี้ยว! ปล่อยฝุ่นดำให้ชาวบ้านรับกรรมต่อ

ร้อยเอ็ด - งามหน้า! บริษัทบัวสมหมาย ไบโอแมส จำกัด ผู้ผลิตไฟฟ้าชีวมวลรับปากรองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด รีบแก้ปัญหาฝุ่นดำจากการเผาไหม้จากโรงไฟฟ้าไม่ทันข้ามวันก็ปล่อยฝุ่นใส่ชาวบ้านอย่างไม่แยแส แกนนำชาวบ้านบอกเป็นพฤติกรรมซ้ำซาก ไม่จริงใจแก้ปัญหา 29 พ.ย.ต้องเจอม็อบอีก

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 พ.ย. ชาวบ้านจาก 7 ตำบล 10 หมู่บ้าน ในเขต อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งอาศัยอยู่รอบโรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัท บัวสมหมาย ไบโอแมส จำกัด รวมตัวเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแก้ปัญหาการปล่อยฝุ่นดำที่เกิดจากเผาไหม้ของแกลบ ทำให้ชาวบ้านเกิดอาการระคายเคือง ผื่นคัน และเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะผู้อาศัยอยู่ในบ้านหนองม่วง หนองบัวทอง และหนองนาสร้าง ได้รับผลกระทบหนักสุด

ความคืบหน้าล่าสุด นายศักดิ์ชัย กาญจนะวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมตัวแทนจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาเมือง และตัวแทนชาวบ้านได้เข้าตรวจสอบการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าชีวมวลบริษัทบัวสมหมาย ไบโอแมส จำกัด ทั้ง 2 โรงที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านนาสร้าง ต.เหนือเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด

พร้อมทั้งเข้าตรวจสอบโรงไฟฟ้าบริษัท ร้อยเอ็ด กรีน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กันอีก 1 โรง เพื่อเปรียบเทียบความผิดปกติ ปรากฏว่าโรงไฟฟ้าของบริษัท บัวสมหมายไบโอแมส จำกัด มีปัญหาด้านการเก็บรักษาแกลบ โดยทำเป็นระบบเปิด ไม่เก็บมิดชิด และมีการปล่อยน้ำเสียจากโรงไฟฟ้าลงในพื้นที่นาข้าวของชาวบ้าน

ส่วนการปล่อยมลพิษฝุ่นดำจากการเผาไหม้ โรงไฟฟ้าบัวสมหมายฯ ติดตั้งระบบดักฝุ่นเพียงโรงงานเดียว ทำให้เกิดการแพร่กระจายของฝุ่นดำจากโรงไฟฟ้าอีกโรงที่ไม่มีระบบดักฝุ่น จึงพบเห็นฝุ่นจับตามใบไม้และหลังคาบ้านของชาวบ้าน

ขณะที่โรงไฟฟ้าของบริษัท ร้อยเอ็ด กรีน ซึ่งใช้วัสดุและเครื่องกำเนินไฟฟ้าแบบเดียวกัน และสร้างมาก่อนโรงไฟฟ้าบริษัทบัวสมหมายฯ ไม่มีปัญหาด้านการปล่อยฝุ่น เพราะโรงงานมีการวางเครื่องดักฝุ่นและดูแลเครื่องกำเนินไฟฟ้าเป็นอย่างดี จึงไม่ก่อให้เกิดผลกระทบให้กับชุมชนที่อาศัยอยู่ติดกัน

หลังตรวจพบความผิดปกติทั้งหมด นายศักดิ์ชัย กาญจนะวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะได้สอบถามกับนายสมหมาย สมทรัพย์ เจ้าของบริษัท ซึ่งรับปากจะเก็บแกลบในระบบปิด โดยมีการคลุมแกลบอย่างมิดชิด ส่วนน้ำเสียจะให้ระบายไปทางอื่นโดยไม่ให้น้ำเสียลงสู่พื้นที่นาของชาวบ้าน

ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาว บริษัทฯ จะทำแผนเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัด โดยมีวิศวกรลงนามรับรอง เมื่อแผนดังกล่าวผ่านการพิจารณา จะมีการทำพันธสัญญา 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ตัวแทนจากจังหวัด ผู้ประกอบการ และตัวแทนชาวบ้าน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบขึ้นอีก โดยแผนดังกล่าวคาดจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมกราคม 2556

“แต่ได้แนะนำให้บริษัทฯ รีบทำทันทีขณะนี้ คือ ใช้ระบบน้ำฉีดป้องกันไม่ให้ฝุ่นคลุ้งกระจาย เนื่องจากขณะนี้ เป็นช่วงฤดูหนาวมีลดพัดแรง พร้อมเสนอให้บริษัทเพิ่มกองทุนเยียวยาผู้เจ็บป่วย นอกเหนือจากเงินกองทุนที่ให้ผลตอบแทนอื่นกับชุมชนที่อาศัยอยู่ในรอบรัศมี 5 กิโลเมตรที่บริษัทจัดสรรให้แต่ละปีด้วย” นายศักดิ์ชัยกล่าวในวันที่มาตรวจดูโรงงานผลิตไฟฟ้า

ด้านนายฐิตวัฒน์ ประตุคำ แกนนำชาวบ้านกล่าวว่า การแก้ไขปัญหาลักษณะดังกล่าวเป็นการแก้ไขปัญหาซ้ำวิธีการเดิมที่เคยทำมาตลอดระยะเวลา 10 ปี ที่มีการตั้งโรงไฟฟ้าแห่งนี้ เพราะเมื่อมีการละเมิดข้อตกลง สร้างความเดือดร้อนให้ชุมชน ชาวบ้านก็ออกมาเดินขบวน บริษัทฯ ก็รับปากจะแก้ไข แต่ก็เพิกเฉยเรื่อยมา จึงต้องการให้บริษัทฯ จัดการแก้ไขปัญหาย่างเด็ดขาด

เบื้องต้นให้ลดกำลังการผลิตไฟฟ้าจาก 9.9 เมกะวัตต์ เหลือ 6.9 เมกะวัตต์ ตามที่เคยรับปากไว้ ก็จะช่วยแก้ปัญหาการปล่อยมลพิษออกจากโรงงานได้ทันที

เพราะขณะนี้ นอกจากบริษัทดังกล่าวไม่ดำเนินการแก้ปัญหา เพื่อระงับปัญหาฝุ่นดำแล้ว หลังคณะรองผู้ว่าราชการเดินทางกลับ วันนี้ (16 พ.ย.) ยังปล่อยฝุ่นดำมากกว่าที่ผ่านมาอีก ชาวบ้านได้ตกลงกันว่า ในวันที่ 29 พ.ย.ที่ศาลปกครองจังหวัดอุบลราชธานีนัดนายสมหมายและชาวบ้านไปไต่สวนตามที่ชาวบ้านฟ้องร้องให้ศาลปกครองคุ้มครองความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น นายสมหมายต้องเจอกับม็อบจากหลายจังหวัดที่กิจการของนายสมหมายไปทำความเดือดร้อนให้ชาวบ้านแน่นอน