เชียงราย - เผยคนเชียงรายเป็นเบาหวานแล้วมากกว่า 3 หมื่นคน เสี่ยงเบาหวานขึ้นตาถึงขั้นตาบอด
วันนี้ (15 พ.ย.) นายแพทย์ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญในผู้ป่วยเบาหวานยังคงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเช่นเดิม โดยพบว่าผู้ป่วยหลายรายมีอาการของผู้เป็นเบาหวานขึ้นจอประสาทตา หรือที่เรียกว่าเบาหวานขึ้นตา ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ตาบอดได้ เนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงทำให้เกิดความผิดปกติของเส้นเลือดที่จอประสาทตา เกิดจอประสาทตาบวม เลือดออกในน้ำวุ้นตา จอประสาทตาหลุดลอกจนทำให้ตาบอด ดังนั้น ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานนานเท่าไหร่โอกาสเกิดเบาหวานขึ้นตาก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเท่านั้น
นายแพทย์ชำนาญกล่าวว่า ในปี 2555 นี้ทาง จ.เชียงรายตรวจพบว่ามีผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ขึ้นทะเบียนเอาไว้แล้วจำนวน 32,485 ราย และได้รับการตรวจจอประสาทตาด้วยกล้อง Fundus Camera จำนวน 20,295 ราย คิดเป็นร้อยละ 62 มีการส่งรักษาต่อโดยจักษุแพทย์ 857 ราย ได้รับการรักษาโดยฉายแสงเลเซอร์ 263 ราย ผ่าตัดและรักษาอื่นๆ 390 ราย
“โรคเบาหวานจะทำให้สูญเสียการมองเห็นลงอย่างมากหรือตาบอด ผู้ป่วยที่มีเบาหวานขึ้นตาจะไม่มีอาการเจ็บปวด จะไม่รู้สึกถึงความผิดปกติในการมองเห็น จนกระทั่งเป็นรุนแรงมากแล้ว เช่น ถ้าเบาหวานขึ้นตาและมีจุดกลางรับภาพ จอประสาทตาบวมร่วมด้วยจะรู้สึกมองภาพไม่ชัด ตามัว หรือใช้สายตาระยะใกล้ เช่น อ่านหนังสือลำบากถ้ามีเส้นเลือดงอกผิดปกติบนจอประสาทตาแตก มีเลือดออกในน้ำวุ้นตา อาจมีอาการเหมือนมีเงาดำบังลอยไปมาจนถึงมืด และมองอะไรไม่เห็น ดังนั้น ผู้ป่วยเบาหวานต้องไปพบจักษุแพทย์ทันทีที่มีอาการ” นายแพทย์ชำนาญกล่าว และว่า
สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ การที่ผู้ป่วยเบาหวานส่วนใหญ่แม้จะมีเบาหวานขึ้นตามากแล้ว ก็ยังไม่แสดงอาการมองเห็นที่ผิดปกติ จึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นที่จะต้องได้รับการตรวจจอประสาทตาโดยจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพราะสามารถรักษาและป้องกันไม่ให้ตาบอดได้ถ้าทันท่วงที
