xs
xsm
sm
md
lg

“พ.ต.ท.แก๊งล่าสัตว์” ย่องเงียบรับข้อกล่าวหา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เพชรบุรี - “พ.ต.ท.ปราณบุรี” ฉาวแก๊งล่าสัตว์ป่า ย่องเงียบเข้ารับแจ้งข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน ลั่นปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาขอให้การในชั้นศาล

เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (14 พ.ย.) พ.ต.ท.ธีรยุทธ์ เกตุมั่งมี สว.สส.สภ.ปราณบุรี 1 ในแก๊งล่าสัตว์ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้เดินมายัง สภ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยมี พ.ต.ท.กลยุทธ์ วงษ์เพ็ชร พงส.ผนพ.หน.งานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน ทำการสอบสวนใช้เวลากว่า 50 นาทีจึงเสร็จสิ้น จากนั้น พ.ต.ท.ธีรยุทธ์ เกตุมั่งมี จึงรีบออกจากห้องสอบสวน และขึ้นรถยนต์ฮอนด้าซีอาร์วี สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ญถ 348 กทม. แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ต่อสื่อมวลชน

พ.ต.ท.กลยุทธ์ วงษ์เพ็ชร พงส.ผนพ.หน.งานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน กล่าวว่า พ.ต.ท.ธีรยุทธ์ เกตุมั่งมี สว.สส.สภ.ปราณบุรีได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมดคือ มีและพาอาวุธปืนยิงปืน ล่าสัตว์ ครอบครองซากสัตว์ป่า โดยไม่ได้รับอนุญาต และล่าสัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 โดย พ.ต.ท.ธีรยุทธ์ เกตุมั่งมี ปฏิเสธไม่ขอให้การใดๆ ทั้งสิ้น โดยขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น

ด้านนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนเองนำหลักฐานรูปถ่าย พ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี สว.สส.สภ.ปราณบุรี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน ในข้อหาล่าสัตว์ป่า และลักลอบเข้าในเขตป่าสงวนโดยไม่รับอนุญาตไปแล้วนั้น ล่าสุดวันนี้ตนได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในคดีนี้แล้ว โดยยืนยันว่าหลักฐานที่ปรากฏนั้นยึดได้จากกล้องถ่ายรูปของผู้ต้องหาเองทั้งหมด แต่ที่ไม่สามารถคุมตัว พ.ต.ท.คนดังกล่าว มอบให้พนักงานสอบสวนในวันเกิดเหตุได้นั้น เนื่องจากเป็นเหตุยามวิกาล และก็เป็นตำรวจสัญญาบัตรด้วย ดังนั้นเมื่อดูขอบเขตอำนาจของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าแล้ว จึงไม่กล้าส่งตัวไปยังตำรวจได้ทันที แต่เมื่อตรวจสอบหลักฐานเพิ่ม ซึ่งก็ชัดเจนว่าเป็นหนึ่งในขบวนการล่าสัตว์ป่า และร่วมกับคาราวานที่ถูกจับกุมดังกล่าวด้วยแน่นอน

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวต่อว่า การจับกุมคาราวานล่าสัตว์ป่าดังกล่าว เจ้าหน้าที่อุทยานทุกนาย ไม่มีการซูเอี๋ย หรือปล่อยปละละเลย พ.ต.ท.นายดังกล่าวแน่ เพราะหากมีการเคลียร์กันในป่าที่เกิดเหตุ ก็คงไม่นำหลักฐาน หรือเข้าแจ้งความซ้ำอีกครั้งหนึ่งแน่ และตนเองก็ไม่กังวลที่ตำรวจมองว่า เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า อาจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่จับกุม พ.ต.ท. ตั้งแต่แรกนั้น ยืนยันว่า ทำหน้าที่ปกป้องป่าอย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งต้องรอผลตรวจพิสูจน์ว่าปืนที่ยึดได้เป็นของใครกันบ้าง คดีก็จะชัดเจนมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น