รวบพระชั่วเสพยา –ลักทรัพย์ อ้างมั่วหาเงินให้แฟนรักษาสิว

ศูนย์ข่าวศรีราชา - พระชั่ว ถูกตำรวจสัตหีบรวบตัว หลังพระพี่เลี้ยงแจ้งความจับ เหตุแอบลอบลักทรัพย์ในบ้านเรือนชาวบ้าน แถมค้นในอังสะยังพบยาบ้าด้วย

เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (10 พ.ย.) พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรสัตหีบ(ผกก.สภ.สัตหีบ) จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประกอบ แสงพริ้ง รองผกก.ป.สส. พ.ต.ท.นิพนธ์ ป้อมสนาม รองผกก.สส. พ.ต.ท.ฐปณัธ ชญาณพัฒน์ สว.สส.และกำลังชุดสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมพระฐิติพงษ์ พรหมเจริญ หรือปาล์ม อายุ 25 ปี พระลูกวัดสำนักปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอสัตหีบ ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 171/4 ถนนพหลโยธิน แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร

ในข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถานและมียาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และยังมีพฤติกรรมเสพยาบ้า มีอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยถูกจับกุมพร้อมของกลาง ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 4 บาท 1 เส้น สร้อยข้อมือหนัก 2 บาท 1 เส้น อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อบาเร็ตต้า 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 6 นัด และเงินสดอีก 86,300 บาท ยาบ้า 2 เม็ด พร้อมอุปกรณ์การเสพ

การจับกุมดังกล่าว เป็นผลมาจากเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พระกิดากร อำนวยพรสวัสดิ์ อายุ 50 ปี พระพี่เลี้ยงของผู้ต้องหา ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสัตหีบ ว่าถูกคนร้ายเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินภายในบ้านพัก โดยมีทรัพย์สินประกอบด้วย ทองคำรูปพรรณ 2 เส้น น้ำหนักรวม 6 บาท และอาวุธปืนหายไป โดยสงสัยว่าพระฐิติพงษ์ เป็นผู้ขโมยทรัพย์สินดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าท่ำตรวจ ได้นำตัว พระฐิติพงษ์ ไปตรวจปัสสาวะซึ่งก็พบว่าเป็น สีม่วง และยังพบยาบ้า 2 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในอังสะ จึงให้เจ้าอาวาสดำเนินการสึก ก่อน นำตัวไปตรวจค้นในกุฏิ ซึ่งก็พบสมุดบัญชีเงินฝากที่มียอดเงินถึง 80,000 บาท

ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้มาจากการนำทองรูปพรรณที่โจรกรรมมาจากบ้านของพระกิดาพร เมื่อครั้งไปฉันภัตตาหารเพลเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนอาวุธปืนได้นำไปซุกซ่อนไว้ในห้องเก็บของ บริเวณศาลาวัด

นอกจากนั้น พระฐิติพงษ์ พรหมเจริญ ผู้ต้องหา ยังสารภาพเพิ่มเติมว่า ได้บวชพรรษามาพร้อมกับพระกิดาพร จนมีความสนิทสนม และเมื่อครั้งเดินทางไปฉันภัตตาหาร เพลที่บ้านหลังเกิดเหตุ จึงรู้ว่าภายในบ้านมีทรัพย์สินมีค่าจำนวนมาก ประกอบกับขณะจำพรรษาอยู่ในวัด ได้รู้จักกับพนักงานสาวของเทศบาลแห่งหนึ่งทางเฟซบุ๊ก และโทรศัพท์คุยกันมานานเกือบ 3 เดือนจนสนิทสนม หลังจากนั้นได้ตกลงจะคบหากันหลังลาสิขา

ก่อนเกิดเหตุฝ่ายหญิงได้มาขอเงินจำนวน 20,000 บาท อ้างว่าจะนำไปใช้เพื่อรักษาสิวที่หลัง จึงเกรงว่าหากไม่มีเงินให้จะฝ่ายหญิงตีจากจนต้องดิ้นรนหาเงินและวางแผนลักทรัพย์โดยเข้าไปขโมยกุญแจบ้านของกิดากร ขณะออกกิจนิมนต์ ซึ่งในช่วงดึกของคืนเกิดเหตุได้แอบย่องออกจากวัด เพื่อบุกเข้าโจรกรรมทรัพย์สินในบ้านหลังดังกล่าว