xs
xsm
sm
md
lg

ดส.จับสาวลักลอบเปิดคลินิกเสริมความงามเถื่อนในบ้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

กก.ดส.แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาลักลอบเปิดคลีนิคเสริมความงามเถื่อน
กก.ดส.รวบผู้ต้องหาลักลอบฉีดสารโบท็อกซ์ และร้อยไหม พร้อมดัดแปลงเป็นคลินิกเสริมความงามแบบครบวงจรภายในบ้านพัก หลังส่งสายลับทำการล่อซื้อบริการ

วันนี้ (11 ต.ค.) เวลา 16.00 น. นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษา รมต.สาธารณสุข พ.ต.อ. วิวัฒน์ คำชำนาญ ผกก.ดส.บช.น. ร.ต.อ.กิตติเมศร์ โชติปิติเจริญรัฐ รอง สว.สส.กก.ดส.บช.น. ชุดสืบสวน กก.ดส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าข้าม เข้าจับกุมสถานเสริมความงามโดยไม่ได้รับอนุญาตไม่มีชื่อ เลขที่ 33/15 หมู่บ้านพิศาลโครงการ 14 แขวงและเขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ

ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ สูง 2 ชั้น เจ้าหน้าที่ได้ให้สายลับเข้าไปทำการล่อซื้อโดยการฉีดโบท็อกซ์ ราคา 15,000 บาท และร้อยไหม ราคา 5,000 บาท เป็นจำนวนทั้งสิ้น 20,000 บาท หลังจากทำการฉีดเสร็จสิ้นตามที่ตกลงราคากันไว้ ทางสายลับได้ส่งสัญญาณให้ชุดจับกุมเข้าไป ภายในบ้านดังกล่าวพบดัดแปลงเป็นคลินิกเสริมความงามแบบครบวงจร เช่น ฉีดคอลลาเจน ฉีดโบท็อกซ์ ร้อยไหม ฉีดวิตามินซี จากการตรวจสอบพบว่าภายในห้องด้านหลังของตัวบ้าน มีการลักลอบดัดแปลงเป็นคลินิกเสริมความงาม ส่วนบริเวณชั้น 2 ดัดแปลงเป็นห้องยิงเลเซอร์สำหรับรักษาสิวฝ้า ยังพบของกลาง เช่น เตียงสำหรับเสริมความงาม อุปกรณ์ทางการแพทย์ วิตามินซีและคอลลาเจนชนิดเข้มข้น นอกจากนี้ยังพบเดอร์มาร์โรเลอร์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ชนิดใหม่สำหรับใช้ในการผลัดเซลล์ผิวหนังที่ใบหน้า ที่ยังไม่ได้การรับรองและใช้ทางการแพทย์เนื่องจากอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในการรักษา รวมถึงยาสำหรับใช้ในการลดความอ้วนที่ไม่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา

โดยจับกุม นางจิรฐา สารบรรณ 37 อยู่บ้านเลขที่ 25/1 ม.2 ต.บ้านไผ่ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน และผู้ให้บริการเสริมความงาม ให้การว่า ตนได้เปิดสถานเสริมความงามดังกล่าวมากว่า 1 ปี โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนทำงานทั่วไป และนักศึกษาซึ่งจะทราบกันปากต่อปากแต่ไม่เคยมีคนดังมาใช้บริการ ที่รับทำเพราะเคยเป็นผู้ช่วยพยาบาลตามคลินิกต่างๆ มาหลายแห่งเป็นเวลา 5 ปี ในตำแหนงพนักงานทำทรีทเม้นต์ จะอาศัยดูและจำวิธีการฉีดยามาจนมาเปิดทำเอง สำหรับอุปกรณ์การเสริมความงาม รับซื้อจากตามคลินิกที่เลิกกิจการ ส่วนพวกคอลลาเจลและสารเสริมความงามต่างๆ สั่งซื้อมาทางอินเทอร์เน็ตที่ประกาศขายโดยทั่วไป โดยการรักษาแต่ละครั้งก็จะตกอยู่ที่ราคาครั้งละ 1,500-2,000 บาท

นายพสิษฐ์เปิดเผยว่า จากการตรวจค้นพบว่านางจิรฐาทำการรักษาจริงโดยไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญอีกทั้งยาที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบนั้นเป็นยาที่ไม่ผ่านการตรวจจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาโดยเฉพาะสารคลอราเจน ที่เข้มข้นซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิต ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการช็อคถึงตายได้แม้แต่แพทย์จริงๆ ยังไม่ใช้ปริมาณเข้มข้น พร้อมยาควบคุมชนิดต่างๆ ที่มีอันตรายเช่นการร้อยไหม ฉีดสารกลูตาไทโอน วิตามินซี โบท็อกซ์ และฟิลเลอร์ที่เป็นยาที่ฉีดให้กับน้องกระแตถึงแก่ชีวิตมาแล้ว ซึ่งยาที่ตรวจพบหลายชนิดมีผลข้างเคียงต่อชีวิตและหากถูกฉีดเข้าไปร่างกายโดยผู้ฉีดไม่มีความชำนาญไม่ได้เป็นแพทย์จริงก็อาจมีการติดเชื้อถึงขั้นทำให้ตาบอด และปากเบี้ยวได้เนื่องจากบนใบมีเส้นเลือดเป็นจำนวนมาก

พ.ต.อ.วิวัฒน์เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลให้ช่วยเข้าร่วมตรวจสอบสถานบริการดังกล่าวหลังจากมีผู้ร้องเรียนเข้ามา วันนี้ทางเจ้าหน้าที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและเยาวชนจึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการล่อซื้อ สำหรับของกลางที่พบส่วนใหญ่พบว่าไม่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา สำหรับเครื่องมือทางการแพทย์ก็พบว่าไม่ได้มาตรฐานรวมถึงผู้ให้การรักษาก็ไม่ได้มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา โทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสอบสวนเพื่อขยายผลหาเว็บไซต์ที่มีการขายตัวยาดังกล่าวรวมถึงสถานเสริมความงามที่ลักลอบขายเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ต่อไป และนำตัวยาไปตรวจสอบที่กระทรวงสาธารณสุขว่าได้มาตรฐานตาม อย.หรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น