อุบลราชธานี - ภัยแล้งเริ่มลุกลาม ทำต้นข้าวในหลายตำบลของจังหวัดอุบลราชธานียืนต้นตาย ชลประทานจังหวัดเตือนเกษตรกรนอกเขตชลประทานงดปลูกพืชฤดูแล้งเด็ดขาดเพราะภัยแล้งมาเร็วกว่าทุกปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศที่มีแดดจัดของจังหวัดอุบลราชธานี ทำให้แปลงข้าวในระยะใกล้เก็บเกี่ยวของชาวนาใน ต.หนองบ่อ และหนองขอน อ.เมือง ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำหล่อเลี้ยงลำต้น เพราะน้ำผิวดินระเหยอย่างรวดเร็วทำให้นาข้าวจำนวนหลายร้อยไร่อยู่ในสภาพเหี่ยวเฉาและยืนต้นตายจากการขาดน้ำมานาน
สำนักงานชลประทานจังหวัดอุบลราชธานีเตือนชาวนาที่อยู่นอกเขตชลประทานควรงดปลูกพืชในฤดูแล้งเด็ดขาดเนื่องจากความแห้งแล้งปีนี้มาเร็ว และอาจมีความรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งจะมีผลให้ผลผลิตที่หว่านไถเพาะปลูกใหม่ขาดน้ำเสียหายทั้งหมด
ขณะที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือระบุว่า ระหว่างวันที่ 7-10 พ.ย. มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนเล็กน้อยบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส
สำหรับระหว่างวันที่ 11-13 พ.ย.มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
ส่วนฝนที่ตกในช่วงนี้มีปริมาณไม่เพียงพอต่อพืชไร่ที่กำลังเจริญเติบโต เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติม เพราะหากขาดน้ำพืชจะชะงักการเจริญเติบโต และเกิดความเสียหายแก่ผลผลิตได้ รวมทั้งเกษตรกรควรคลุมดินบริเวณพื้นที่เพาะปลูกด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อลดการระเหยของน้ำและสงวนความชื้นที่บริเวณผิวหน้าดินไว้ด้วย