สุรินทร์ - ชาวบ้านอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์เดือดร้อน ร้องหน่วยงานรัฐเกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหา “สะพานฆาตกร” สร้างสะพานใหม่แข็งแรงปลอดภัย แทนสะพานไม้เก่าชำรุดผุพังอายุหลายสิบปี เกิดอุบัติเหตุเจ็บตายบ่อยครั้ง โวยเรียกร้องมานานกว่า 10 ปีไร้การเหลียวแล ล่าสุดคร่าชีวิตชาวนาไปอีก 1 ราย ครอบครัวยากจนเดือดร้อนหนัก วอนขอให้เป็นศพสุดท้าย
วันนี้ (7 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ได้รับการร้องเรียนจากนางกิว สาระ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/3 ม.18 บ้านโคกปาจิก ต.ปรือ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ว่า กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักและขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.05 น. นายรอน สำราญดี อายุ 40 ปี บุตรชาย ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 100 หมายเลขทะเบียน ขฉข 198 สุรินทร์ กลับมาจากทุ่งนาเพื่อกลับบ้าน เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณข้ามลำห้วยตาลอก บ.ตาลอก ต.ปรือ อ.ปราสาท รถจักรยานยนต์เกิดเสียหลักตกสะพาน ทำให้คอหักเสียชีวิตคาที่ และทางครอบครัวมีฐานะยากจนจึงต้องเป็นหนี้กู้ยืมเงินมาจัดการงานศพจำนวน 30,000 บาท อีกทั้งนายรอนเป็นเสาหลักหารายได้เลี้ยงตนและครอบครัว จึงสร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวเป็นอย่างมาก
ขณะที่ นายสุเทพ สงวนดี ผู้ใหญ่บ้านตาลอก ม.7 ต.ปรือ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ กล่าวว่า สะพานข้ามฝายลำห้วยตาลอกระหว่างบ้านตาลอกไปบ้านระลมระไซร์เป็นสะพานไม้ที่มีอายุการใช้งานมายาวนานหลายสิบปี มีสภาพชำรุดผุพังมาก ชาวบ้านทนไม่ไหวต้องเรี่ยไรขอรับบริจาคไม้และเงิน มาลงมือลงแรงซ่อมแซมสะพานดังกล่าวกันเอง แบบซ่อมแล้วซ่อมอีกเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้มีสภาพสามารถเดินทางสัญจรไปมาได้
ทั้งนี้ สะพานดังกล่าวอยู่ในความดูแลของเทศบาลตำบลนิคม อ.ปราสาท แต่ก็ไม่มีการก่อสร้างให้แข็งแรงและปลอดภัย ที่ผ่านมาได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง และล่าสุดมีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์พลัดตกลงไปทำให้เสียชีวิตเมื่อตอนเย็นวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา จึงขอวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือจัดสรรงบประมาณมาก่อสร้างเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กให้แข็งแรง เพื่อให้ประชาชนสัญจรไปมาด้วยความปลอดภัยและสามารถขนส่งผลผลิตทางการเกษตรออกไปจำหน่ายได้โดยสะดวก โดยขอให้นายรอน สำราญดี ที่ขับขี่จักรยานยนต์ตกสะพานเสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมาเป็นศพสุดท้าย
นายสุเทพกล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมากลุ่มประชาชนผู้เดือดร้อนได้เข้าไปยื่นหนังสือร้องเรียนถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเหลือแก้ปัญหาความเดือดร้อนมากว่า 10 ปีแล้ว กลับไม่ได้รับการเหลียวแลแก้ไขแต่อย่างใด
แม้ล่าสุด นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหลังมีการร้องเรียนเข้าศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ สำนักงานนายกรัฐมนตรี แต่ก็ปัดความรับผิดชอบว่าไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของตัวเองเช่นเดียวกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมชลประทาน, เทศบาลตำบลนิคม อ.ปราสาท และทางหลวงชนบทสุรินทร์
