ร้อยเอ็ด - การค้าภายในจังหวัดร้อยเอ็ดแนะชาวนาต้องร่วมสอดส่องจับผิดโรงสีโกงจำนำข้าวหรือไม่ทุกขั้นตอน หากพบหลักฐานถูกโกงชั่งน้ำหนัก-ตรวจความชื้นของโรงสีให้เก็บไว้แจ้งความเอาผิด ด้านชาวนาจวกซ้ำข้าราชการสมรู้ร่วมคิดนายทุนดึงเกมยื้อเวลาไม่ยอมให้โรงสีสหกรณ์เกษตรเปิดจุดรับจำนำ เพราะรอข้าวหมดจากมือชาวนาจึงจะทำทีช่วยเหลือ
จากกรณีชาวนาใน 4 อำเภอพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ในจังหวัดร้อยเอ็ดได้ร้องเรียนและชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดเพื่อเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดเปิดให้มีการจำนำข้าวอย่างเสรี โดยเปิดโอกาสให้สหกรณ์การเกษตรในพื้นที่และโรงสีนอกเขตเข้าร่วมโครงการฯ ด้วย เนื่องจากที่ผ่านมา ชาวนาถูกนายทุนโรงสีภายในจังหวัดกดราคาจำนำ อ้างความชื้นสูงและมีสิ่งปลอมปนข้าวเยอะ แล้วหักปริมาณข้าวมากเกินไป และชาวนาต่างเชื่อว่าโครงการรับจำนำข้าวมีการทุจริต โดยสมรู้ร่วมคิดระหว่างข้าราชการใหญ่ในพื้นที่ นายทุนโรงสี และนักการเมือง
ล่าสุด นายศิริพงษ์ วิวัฒน์เกษมชัย การค้าภายในจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวถึงประเด็นปัญหาดังกล่าวว่า อยากให้ชาวนาที่นำข้าวเข้าไปร่วมโครงการรับจำนำต้องรักษาสิทธิของตนเอง โดยการติดตามดูทุกขั้นตอน ทั้งการชั่งน้ำหนัก การตรวจวัดความชื้น ตรวจวัดสิ่งปลอมปนอย่างใกล้ชิด รวมทั้งต้องเก็บรักษาหลักฐานที่ได้รับจากโรงสีไว้ให้ดี เพราะหากมีปัญหาก็สามารถใช้เป็นหลักฐานเพื่อยื่นร้องดำเนินคดีต่อโรงสีนั้นๆ ได้ และนอกเหนือจากนั้น หากพบความผิดปกติในระหว่างทำการจำนำข้าวก็สามารถร้องต่อตัวแทนเกษตรกรที่ประจำจุดรับจำนำได้ทันที
นายศิริพงษ์กล่าวว่า การตรวจความชื้นและสิ่งปลอมปนของการจำนำข้าวมีเกณฑ์กำหนดชัดเจน คือข้าวที่นำไปตรวจ 200 กรัมจะต้องมีค่าความชื้นไม่เกิน 15% หากค่าความชื้นเกินก็จะหักค่าความชื้นแค่ 15 กก./ตัน และมีการกำหนดค่าบวก-ลบไม่มาก ซึ่งจะหักอย่างไรก็ไม่ถึงเป็นตันตามที่ชาวนาเคยร้องเรียน และนำไปปราศรัยโจมตีในที่ชุมนุมวันก่อน
ดังนั้น หากชาวนาเจอในลักษณะหักข้าวเป็นตันดังกล่าวก็ขอให้ส่งเรื่องพร้อมหลักฐานไปยังคณะกรรมการข้าวระดับอำเภอ และส่งต่อขึ้นมาในระดับจังหวัด เพื่อตรวจสอบลงโทษโรงสีที่เอาเปรียบชาวนาต่อไป
ส่วนกรณีที่เกษตรกรกล่าวหาโรงสีเอาเปรียบชาวนาด้วยการหักความชื้นรายละ 2-3 ตัน ก็จะมีการเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดหลักฐานจากเกษตรกร เพื่อตั้งกรรมการเข้าไปตรวจสอบโรงสีดังกล่าวด้วยต่อไป
สำหรับข้อเรียกร้องของเกษตรกรที่ต้องการให้เปิดรับจำนำข้าวเสรี ด้วยการอนุญาตให้โรงสีสหกรณ์การเกษตรอำเภอและโรงสีนอกพื้นที่ด้วยเพื่อป้องกันการเอาเปรียบชาวนา กรณีนี้ทางจังหวัดไม่มีอำนาจตัดสินใจได้เอง ทางคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำข้าวระดับจังหวัด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นประธานฯ ได้เสนอชื่อโรงสีสหกรณ์ 17 แห่ง และโรงสีอีก 5 แห่งใน 4 จังหวัด คือ สุพรรณบุรี, ฉะเชิงเทรา, ลพบุรี และชัยนาท เข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติที่มีนายกรัฐมนตรีพิจารณาตัดสินใจ
โดยจะมีการประชุมกันในวันนี้ (7 พ.ย.) หลังจากนั้นถึงจะส่งคำตอบมายังจังหวัดเพื่อดำเนินการตามนั้นต่อไป
ด้านนายครองราชย์ สระแก้ว เกษตรกรบ้านจานเตย ม.14 ต.ทุ่งกุลา อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า ตอนนี้พวกตนสิ้นหวังที่จะพึ่งพานโยบายการรับจำนำข้าวของรัฐบาลจากจังหวัดร้อยเอ็ดแล้ว เพราะมีการเล่นเกมโยกโย้กับเกษตรกรชาวนามาโดยตลอด และมีลักษณะดึงเกมเพื่อให้ข้าวหลุดออกจากมือชาวนาหมดแล้วจึงจะเปิดจำนำเสรีให้ชาวบ้าน ซึ่งแทบไม่มีประโยชน์ที่จะรอ
จนถึงวันนี้พวกตนก็ยังเก็บข้าวเปลือกไว้ในมือเพื่อรอคำตอบจากทางจังหวัดว่าจะเปิดจำนำข้าวเสรีได้หรือไม่ ถือเป็นความหวังสุดท้าย หากก่อนเย็นวันนี้ (7 พ.ย.) พวกตนไม่ได้รับคำตอบใดๆ ก็จะเลิกเชื่อมั่นนโยบายของรัฐบาล เพราะโกหกประชาชนเพื่อประโยชน์ของพวกพ้องตัวเองเท่านั้น โดยที่ประชาชนไม่สามารถพึ่งพาได้เหมือนกับที่หาเสียงไว้