ศูนย์ข่าวศรีราชา - คณะทำงานตรวจสอบการขออนุญาตทำสิ่งล่วงล้ำลำแม่น้ำจังหวัดชลบุรี เห็นชอบให้บริษัทเอกชนปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำแม่น้ำประเภทท่าเทียบเรือขนาดไม่เกิน 20 ตันกรอส บริเวณริมฝั่งทะเลอ่าวไทยตะวันออก ใจกลางเมืองศรีราชา เพื่อเป็นท่าเทียบเรือนำเที่ยว
วันนี้ (2 พ.ย.) ที่ห้องประชุมเทศบาลเมืองศรีราชา นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบการขออนุญาตทำสิ่งล่วงล้ำลำแม่น้ำจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยผู้แทนจากโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดชลบุรี สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 ชลบุรี สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา และเทศบาลเมืองศรีราชาได้เข้าตรวจสอบสถานที่ และร่วมกันประชุมความเห็นชอบกรณี บริษัทเดอะสุพีเรียโฮลดิ้ง จำกัด ได้ทำเรื่องขออนุญาตปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำแม่น้ำประเภทท่าเทียบเรือขนาดไม่เกิน 20 ตันกรอส บริเวณริมฝั่งทะเลอ่าวไทยตะวันออก ใจกลางเมืองศรีราชา เพื่อใช้เป็นท่าเทียบเรือนำเที่ยว หน้าที่ดินกรรมสิทธิ์ของบริษัทไมโคคลอริน จำกัด โฉนดเลขที่ 883, 886, 1390, 3092 และ 3703 จำนวน 5 แปลง ตำบลศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ทางจังหวัดจึงได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบการขอนุญาตทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ จังหวัดชลบุรี เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบสถานที่ตั้งโครงการที่จะขออนุญาตทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ซึ่งผลการประชุมสรุปว่า คณะทำงานตรวจสอบการขออนุญาตทำสิ่งล่วงล้ำลำแม่น้ำจังหวัดชลบุรี มีความเห็นชอบให้ดำเนินก่อสร้างได้ เนื่องจากโครงการนี้ไม่เป็นอุปสรรคต่อแผนพัฒนาของจังหวัด และไม่ขัดต่อผังเมืองของจังหวัดชลบุรี รวมทั้งยังไม่เป็นการทำลายสภาพแวดล้อมของจังหวัดอีกด้วย แต่มีข้อเสนอแนะให้บริษัทที่จะทำการก่อสร้างคำนึงถึงความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นหลัก และระยะเวลาในการก่อสร้างต้องไม่ทำลายสภาพแวดล้อมภายในชุมชนอีกด้วย
ซึ่งโครงการนี้จะเริ่มก่อสร้างในเดือนธันวาคม 2555 คาดว่าจะสร้างเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2556 ท่าเทียบเรือแห่งนี้มีขนาดกว้าง 3.5 เมตร ยาว 80 เมตร หน้าท่ากว้าง 18 เมตร ลึก 8 เมตร พื้นที่ใช้สอย 424 ตารางเมตร เป็นท่าเทียบเรือขนาด 20 ตันกรอส
นายเอกราช คันธโร เจ้าพนักงานตรวจท่าชำนาญการกรมเจ้าท่า สำนักงานขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กล่าวถึงการก่อสร้างท่าเทียบเรือ ที่อำเภอศรีราชานั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการจังหวัด ซึ่งมีนายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีเป็นประธาน และหลังผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการของจังหวัดแล้ว จะส่งเรื่องทั้งหมดให้กรมเจ้าท่าพิจารณาออกใบอนุญาตต่อไป
สำหรับการก่อสร้างท่าเทียบเรือที่อำเภอศรีราชา บริเวณบ้านไร่นั้น ไม่ต้องทำประชาพิจารณ์ หรือรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) เนื่องจากเป็นท่าเรือขนาดเล็ก ไม่เกิน 20 ตันกรอส และยื่นลงไปในทะเลประมาณ 80 เมตรเท่านั้น จึงไม่เข้าระบบดังกล่าว
นายเอกราช กล่าวต่อไปว่า บริเวณจุดการก่อสร้างมีความลึกของระดับน้ำทะเล เพียง 1.50 เมตรเท่านั้น โดยสามารถรองรับได้เพียงเรือขนาดเล็กเท่านั้น โดยสาเหตุที่สร้างท่าเทียบเรือบริเวณดังกล่าว เพื่อรองรับการท่องเที่ยว เนื่องจากบริเวณพื้นที่บนฝั่งมีการสร้างคอนโดฯ และอาคารที่พักอาศัยเพื่อรองรับลูกค้าที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวทางทะเล ที่เกาะสีชัง หรือเกาะล้าน พัทยา