ชาวนาหมดหวัง แล้งจัดข้าวตายท้องกลมวอนรัฐช่วย

มหาสารคาม - ชาวนาใน ต.แวงน่าง อ.เมือง จ.มหาสารคาม หมดอาลัยตายอยาก ต้นข้าวตายท้องกลม เมล็ดลีบ วอนภาครัฐช่วยเหลือด่วน

นายสมพงษ์ อุทัยกุง ชาวบ้านหินลาด หมู่ 2 ต.แวงน่าง อ.เมืองมหาสารคาม ต้องหมดหวังจากการลงทุนปลูกข้าวนาปีในปีนี้ เนื่องจากนาข้าวจำนวน 20 ไร่ของตัวเองเสียหายจากภัยแล้งเกือบทั้งหมด ต้นข้าวที่อยู่ในช่วงออกรวงไม่มีน้ำนม เมล็ดลีบไม่สมบูรณ์ หรือที่เรียกว่า “ข้าวตายมาน” หรือ “ตายท้องกลม” หลังจากที่ฝนทิ้งช่วงมานานกว่า 2 เดือน

และพื้นที่นาทั้งหมดอยู่นอกเขตชลประทาน ทำให้นาข้าวเสียหายเกือบทั้งหมด ซึ่งในปีนี้รู้สึกหมดหวังคาดว่าจะไม่ได้เก็บเกี่ยวผลผลิต ข้าวที่เสียหายก็ต้องเกี่ยวไปให้วัวให้ควายกินดีกว่าปล่อยทิ้งไปเฉยๆ ซึ่งตนได้ลงทุนปลูกข้าวเฉลี่ยไร่ละกว่า 3,000 บาท หากเสียหายทั้งหมดก็จะไม่มีเงินไปใช้หนี้ ธ.ก.ส.

จึงอยากเรียกร้องให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องเงินชดเชย หรือช่วยเหลือพันธุ์ข้าวให้เกษตรกรได้ปลูกในฤดูกาลถัดไป

ด้านนายสุรพงษ์ คำสะอาด นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรประจำตำบลแวงน่าง อ.เมือง จ.มหาสารคาม กล่าวว่า เบื้องต้นได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของเกษตรกรในตำบลแวงน่าง ซึ่งมีพื้นที่ปลูกข้าวทั้งตำบลจำนวน 14,306 ไร่ คาดว่าผลผลิตจะเสียหายกว่าร้อยละ 65 พื้นที่รวมกว่า 9,000 ไร่

โดยจะได้เร่งทำเรื่องเสนอจังหวัดเพื่อพิจารณาประกาศเขตภัยพิบัติแล้ง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป

สำหรับสถานการณ์ภัยแล้งโดยภาพรวมในจังหวัดมหาสารคามทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น หลายพื้นที่ขาดแคลนน้ำอย่างหนัก อ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 17 แห่งในจังหวัดมีปริมาณน้ำเก็บกักเพียงร้อยละ 47.59 หรือราว 38 ล้านลูกบาศก์เมตรของปริมาณความจุอ่าง 81.41 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่น้ำตามลำห้วยต่างๆ ลดลงอย่างรวดเร็วจนบางแห่งสามารถเดินข้ามได้ ต้นข้าวหลายพื้นที่ขาดน้ำมานานกว่า 2 เดือน ส่งผลให้ต้นข้าวยืนต้นแห้งตาย

ส่วนต้นข้าวที่ออกรวงเมล็ดจะลีบไม่สมบูรณ์ โดยลักษณะภัยแล้งส่วนใหญ่จะกระทบต่อพื้นที่การเกษตร การปศุสัตว์ ตลอดจนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค

ล่าสุด จังหวัดมหาสารคาม ได้ประกาศเขตภัยพิบัติแล้งแล้วจำนวน 4 อำเภอ คือ อำเภอบรบือ ชื่นชม วาปีปทุม และอำเภอนาเชือก รวมพื้นที่ประสบภัย 410 หมู่บ้าน 33 ตำบล พื้นที่นาข้าวได้รับความเสียหายรวม 161,438 ไร่ โดยจังหวัดมหาสารคามจะได้ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยอย่างเต็มที่