มหาสารคาม - สถานการณ์ภัยแล้งยังรุนแรง ล่าสุดจังหวัดมหาสารคามประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้งเพิ่มขึ้นอีก 4 อำเภอ รวม 8 อำเภอจาก 13 อำเภอทั้งจังหวัด นาข้าวเสียหายสิ้นเชิงแล้วกว่า 290,000 ไร่
นายสิทธิพล เสงี่ยม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้งในจังหวัดมหาสารคาม เริ่มขยายวงกว้างและเพิ่มระดับความรุนแรง โดยลักษณะของภัยแล้งส่วนใหญ่กระทบต่อภาคการเกษตร ข้าวนาปรังที่ปลูกนอกเขตชลประทานขาดแคลนน้ำอย่างหนัก
ตลอดจนน้ำสำหรับการอุปโภค ตามลำห้วยสาขาต่างๆ แห้งขอด บางพื้นที่ขาดแคลนน้ำในการปลูกพืชฤดูแล้ง ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
ล่าสุดจังหวัดมหาสารคามได้ประกาศเขตภัยพิบัติแล้งเพิ่มขึ้นอีก 4 อำเภอ จากที่ก่อนหน้านี้ประกาศไปแล้ว 4 อำเภอ รวมพื้นที่ประสบภัยแล้ง 8 อำเภอ จาก 13 อำเภอทั้งจังหวัด ได้แก่ อ.บรบือ ชื่นชม วาปีปทุม นาเชือก เชียงยืน นาดูน ยางสีสุราช และอำเภอโกสุมพิสัย ราษฎรประสบภัย 44,142 ครัวเรือน พื้นที่นาข้าวเสียหายสิ้นเชิงจำนวน 292,587 ไร่
นายสิทธิพลกล่าวต่อว่า จากการลงพื้นที่ของนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในการตรวจเยี่ยมสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ภาคอีสาน ได้กำชับในเรื่องของในสำหรับอุปโภคบริโภคอย่าให้ขาด ต้องมีเพียงพอให้กับประชาชน ส่วนการทำนาปรังขอให้งดเนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้ค่อนข้างรุนแรงกว่าทุกปี ซึ่งจากการทำแผนรับมือภัยแล้งในปี 56 มีการสำรวจพื้นที่เป้าหมายที่จะปลูกข้าวนาปรังมีถึง 101,520 ไร่ แต่จะสามารถทำนาปรังได้จริงๆ เพียง 1,900 ไร่เท่านั้น
สำหรับแนวทางการช่วยเหลือเบื้องต้นได้อนุมัติงบประมาณเข้าช่วยเหลืออำเภอที่ประสบภัยแล้งแล้วอำเภอละ 1 ล้านบาท พร้อมกันนี้ยังได้แจ้งไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับจังหวัดและอำเภอลงพื้นที่ออกติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว และพร้อมจะให้ความช่วยเหลือโดยเร่งด่วนเมื่อได้รับการร้องขอต่อไป