xs
xsm
sm
md
lg

เสื้อแดงไม่เอา! “รักเชียงใหม่ 51” กร้าวเจ้าของ “วุฒิศักดิ์” เลิกสร้างบ้านหน้าลานครูบาฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “รักเชียงใหม่ 51” ยกพลบุกศาลากลางร้องผู้ว่าฯ สอบกรณีเจ้าของ “วุฒิศักดิ์คลินิก” สร้างคฤหาสน์หน้าลานครูบาศรีวิชัย ชี้ใหญ่ขนาดนี้สงสัยเป็นสปา-รีสอร์ตเฉพาะกลุ่ม ไม่น่าใช่บ้านพัก-สงสัยเจ้าของหัวหมอเลี่ยงการตรวจสอบ เตรียมตรวจสอบที่มาที่ดิน-แบบก่อสร้าง-ประชาพิจารณ์หากพบไม่ถูกต้องต้องเลิกทันที ส่วนถ้าหาข้อผิดกฎหมายไม่ได้เตรียมแผนสองระดมเงินคนเสื้อแดงซื้อที่คืน

คนเสื้อแดงจากกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 จำนวนประมาณ 100 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ (1 พ.ย.) เพื่อขอให้จังหวัดเชียงใหม่ทำการตรวจสอบการก่อสร้างอาคารบ้านพักอาศัยของนายณกรณ์ กรณ์หิรัญ ผู้บริหารสถานเสริมความงามวุฒิศักดิ์คลินิก บริเวณใกล้กับลานอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย พร้อมทั้งเรียกร้องให้ยุติการก่อสร้างและการได้มาซึ่งเอกสารสิทธิในที่ดิน

กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ระบุว่า หลังจากที่ข่าวการก่อสร้างบ้านพักอาศัยของนายณกรณ์เผยแพร่ออกไป ได้สร้างความไม่สบายใจให้ชาวเชียงใหม่จำนวนมาก เนื่องจากแบบแปลนการก่อสร้างโครงการดังกล่าวมีลักษณะสูงใหญ่บดบังทัศนียภาพของอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวยังถือเป็นพื้นที่ติดกับน้ำตกห้วยแก้วและเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ดอยปุย ซึ่งไม่น่าจะสามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้อย่างที่เจ้าของที่ดินกล่าวอ้าง โดยเฉพาะเมื่อจากการสอบถามประชาชนในละแวกใกล้เคียงที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวมาเป็นเวลานาน ต่างยืนยันว่าไม่มีรายใดได้รับเอกสารสิทธิในบริเวณดังกล่าวแต่อย่างใด

จากกรณีดังกล่าว กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 จึงขอให้จังหวัดได้พิจารณาดำเนินการ โดยขอให้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบการได้มาซึ่งเอกสารสิทธิในที่ดินแปลงดังกล่าวให้มีความชัดเจนภายใน 15 วัน หากพบว่ามีหลักฐานว่าเจ้าหน้าที่รัฐหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองมีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตให้เร่งดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดโดยเร็ว พร้อมทั้งขอให้ยุติการก่อสร้างอาคารดังกล่าวไว้ชั่วคราวเพื่อให้ทางจังหวัดเข้าไปตรวจสอบรูปแบบและการขออนุญาตก่อสร้างว่าถูกต้องตามกฎหมายและมีการทำประชาพิจารณ์ รวมทั้งการประเมินถึงผลกระทบทางด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมหรือไม่

โดยหากพบว่าการดำเนินการก่อสร้างดังกล่าวไม่ถูกต้อง ขอให้ทางจังหวัดสั่งให้มีการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างดังกล่าวออกไป และคืนสภาพที่ดินแปลงดังกล่าวสู่ป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ดอยปุย พร้อมทั้งดำเนินคดีต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องตามกฎหมายโดยเด็ดขาด

ทั้งนี้ ในระหว่างการรอยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แกนนำของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้ทำการปราศรัย โดยระบุว่าการก่อสร้างดังกล่าวน่าจะเป็นสปาหรือสถานที่ค้าบริการทางเพศมากกว่าจะเป็นที่พักอาศัย เนื่องจากมีขนาดและพื้นที่ใช้สอยมากเกินความจำเป็น และน่าจะมีความไม่ชอบมาพากลในการออกเอกสารสิทธิ พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวพาดพิงถึงหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่คนก่อน ว่าปล่อยปละละเลยเรื่องดังกล่าวจนเป็นเหตุให้มีการก่อสร้างขึ้น
 
รวมทั้งกล่าวด้วยว่า หากเจ้าของพื้นที่ยังไม่รับฟังความเห็นของประชาชน ก็ขอให้นึกถึงกรณีโรงงานแทนทาลัมที่ จ.ภูเก็ต เพราะในเมื่อก่อสร้างได้ ประชาชนก็สามารถรื้อถอนได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการระบุด้วยว่า อาจจะใช้วิธีการระดมเงินบริจาคจากชาว จ.เชียงใหม่เพื่อขอซื้อที่ดินผืนดังกล่าวกลับคืนมาจากนายณกรณ์ เพื่อมอบให้เป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ต่อไป

นอกจากนี้ กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ยังระบุด้วยว่า ขอให้สมาชิกจับตาดูพฤติกรรมของเจ้าของที่ดิน เนื่องจากได้รับทราบข้อมูลจากเจ้าของที่ดินเองว่าได้ซื้อที่ดินแปลงใหญ่บริเวณหน้าวัดเจดีย์หลวงวรวิหารเอาไว้แล้ว และมีแผนการที่จะก่อสร้างโรงแรมขนาดใหญ่ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเช่นกันในการที่จะสร้างโรงแรมขนาดใหญ่อยู่ใกล้กับสถานที่สำคัญทางศาสนา

ขณะที่นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมารับเรื่องดังกล่าวด้วยตนเองได้กล่าวกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวแล้ว โดยจะได้เร่งให้มีการสรุปประเด็นต่างๆ ทั้งที่มาของที่ดิน และการออกแบบและขออนุญาตก่อสร้างอาคารให้เสร็จและมีความชัดเจนภายใน 15 วัน พร้อมทั้งได้สั่งการให้ระงับการก่อสร้างเป็นการชั่วคราวด้วยเช่นกัน

นายกฤษณะพงษ์ พึงบึงร่ำ แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เปิดเผยว่า การมาชุมนุมของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ในครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่าการก่อสร้างอาคารดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและขาดความเคารพต่อสถานที่ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวเชียงใหม่ จากการออกแบบและก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ที่สูงกว่าและบดบังอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย อีกทั้งยังมีข้อสงสัยต่อการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดิน การขออนุญาตก่อสร้าง และการทำประชาพิจารณ์ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หากปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไปก็เปรียบเสมือนปล่อยให้นายทุนบางรายย่ำยีหัวใจคนเชียงใหม่ จึงต้องออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบ

นายกฤษณะพงษ์กล่าวต่อไปว่า กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 สงสัยว่าการกล่าวอ้างของเจ้าของที่ดินที่ระบุว่าก่อสร้างบ้านพักอาศัยนั้นเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบและการทำประชาพิจารณ์ และน่าจะมีเป้าหมายในการก่อสร้างเพื่อเป็นสปาหรือรีสอร์ตเฉพาะกลุ่มมากกว่า นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ด้วยว่า ในระหว่างการรังวัดมีการขยับหมุดเพื่อขยายปริมาณที่ดินออกไป พร้อมทั้งกล่าวอ้างกับกลุ่มนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และชาวบ้านว่าจะก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ครูบาศรีวิชัย ทำให้ไม่มีผู้ใดคัดค้านในช่วงก่อนหน้านี้

อีกทั้งยังเป็นที่น่าสังเกตด้วยว่าผู้ประกอบการที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้เคยยื่นขอก่อสร้างหรือต่อเติมอาคารแต่ไม่เคยได้รับการอนุญาต ขณะที่ที่ดินแปลงนี้กลับได้รับอนุญาตให้สามารถก่อสร้างได้ ซึ่งเมื่อสอบถามไปยังเทศบาลตำบลสุเทพก็ไม่มีผู้บริหารคนใดชี้แจงได้ว่าใครเป็นผู้อนุญาต ทั้งที่มีการเซ็นอนุญาตให้เจ้าของที่ดินไปแล้ว

นายกฤษณะพงษ์กล่าวด้วยว่า กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ยืนยันว่าจะไม่ยอมให้มีการก่อสร้างในพื้นที่ดังกล่าวโดยเด็ดขาด แม้จะมีข่าวว่าเจ้าของที่ดินยินยอมที่จะปรับลดขนาดอาคารเหลือ 1 ชั้นก็ไม่สามารถเชื่อถือได้ว่าจะปฏิบัติจริงตามที่แจ้งไว้ ส่วนกรณีที่หลังการตรวจสอบแล้วไม่สามารถเอาผิดทางกฎหมายกับเจ้าของที่ดินได้ ก็จะระดมเงินจากกลุ่มคนเสื้อแดงหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนเพื่อขอซื้อที่ดินและชดเชยค่าเสียหายให้แก่เจ้าของที่ดิน ก่อนที่จะนำที่แปลงดังกล่าวมาทำเป็นอนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์ครูบาศรีวิชัยต่อไป และหลังจากกรณีนี้ทางกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ยังเตรียมที่จะเคลื่อนไหวเพื่อแก้ปัญหาการรุกล้ำพื้นที่ศาสนสถานหรือโบราณสถานแห่งอื่นๆ ใน จ.เชียงใหม่ เช่น การก่อสร้างโรงแรมในบริเวณกำแพงดินอีกด้วย โดยเรื่องดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่ทางกลุ่มฯ จะได้ดำเนินการตลอดปี 2556 อย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น