ศูนย์ข่าวศรีราชา - สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี ออกเตือนชาวสวนผลไม้ในช่วงเข้าสู่ฤดูหนาวให้ระวังโรคที่มากับลม ขณะที่ชาวสวนกล้วยในตำบลบ่อฬุ เจอพายุฝนทำต้นกล้วยหักโค่นกว่า 100 ไร่
นายปิยะ ปกเกตุ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี ได้ออกประกาศเตือนเกษตรกรชาวสวนผลไม้ในจังหวัดจันทบุรี ให้ระวังโรคที่จะมากับลมในช่วงฤดูหนาว ไม่ว่าจะเป็นโรคเพลี้ยไฟ โรคราใบ ที่จะมากัดกิน และทำลายใบอ่อนของต้นผลไม้จนอาจได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะทุเรียน ลำไย มังคุด และลองกอง
ซึ่งวิธีการแก้ไข เกษตรกรควรควบคุมแมลงด้วยการให้อาหารต้นไม้ทางใบ เช่น การฉีดพ่นใบด้วยสารป้องกัน และกำจัดแมลง ซึ่งการใช้สารกำจัดแมลงดังกล่าวจะต้องควบคุมไม่ให้มีสารตกค้าง หรือใช้ในปริมาณที่เหมาะสม
“ประเด็นสำคัญประการหนึ่งในการจัดการผลิตผลของผลไม้เมืองร้อนให้มีคุณภาพ คือ การรดน้ำใส่ปุ๋ยให้เป็นเวลา และการควบคุมบำรุงรักษาเป็นอย่างดี ซึ่งเกษตรกรจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ ที่มีส่วนสำคัญ” นายปิยะกล่าว
ด้านนายชัยวาล สวัสดีมงคล ชาวสวนผลไม้ใน อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ตนทำสวนทุเรียนมากว่า 15 ปี ซึ่งช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว สวนทุเรียนที่ตนปลูกไว้เริ่มเป็นโรคเพลี้ยไฟ โรครา และมีแมลงมากัดกินใบอ่อน โดยตนมีวิธีการป้องกันคือ การฉีดพ่นสารกำจัดแมลงทุกๆ 10 วัน จึงสามารถช่วยบรรเทาโรคดังกล่าวได้
นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงเช้าของวันนี้ (1 พ.ย.) ได้เกิดพายุฝน และลมกระโชกแรงในเขตตำบลบ่อฬุ อำเภอท่าใหม่ จนทำให้สวนกล้วยไข่ส่งออกของเกษตรกรหักโค่นเสียหายกว่า 100 ไร่
โดยนางละออ ด้วงสงค์ อายุ 65 ปี เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไข่ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ผลกระทบจากพายุฝน และลมกระโชกแรงทำให้สวนกล้วยไข่ส่งออกของตนได้รับความเสียหายถึง 1,000 กอ และยังไม่มีหน่วยงานใดให้การช่วยเหลือ
ซึ่งในเบื้องต้น ได้นำไม้ไผ่มาค้ำลำต้นของต้นกล้วย และผูกโยงด้วยเชือกเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอีก เนื่องจากในขณะนี้กล้วยไข่มีราคาดี และตลาดมีความต้องการสูง