ศูนย์ข่าวศรีราชา - สภาพอากาศที่เย็นลง ส่งผลให้บรรยากาศการซื้อ-ขายเสื้อผ้ากันบริเวณตลาดชายแดนถาวรบ้านแหลม จังหวัดจันทบุรีขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ขณะที่ประชาชนในเมืองต่างพากันออกมาจับปูแป้น และปูไข่ออกขาย และรับประทาน สร้างรายได้ และบรรยากาศต้อนรับฤดูหนาวในพื้นที่ให้เป็นไปอย่างคึกคัก
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการหาซื้อเสื้อกันหนาว และผ้านวมบริเวณตลาดชายแดนถาวรบ้านแหลม ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันบุรี หลังเปิดด่านฯ ในเวลา 07.00 น.วันนี้ (26 ต.ค.) ว่าเป็นไปอย่างคึกคัก โดยประชาชนทั้งชาวไทย และกัมพูชาต่างพากันออกมาเลือกซื้อเสื้อกันหนาว และผ้านวมเพื่อบรรเทาความหนาวเย็น หลังสภาพอากาศในพื้นที่เริ่มมีอุณหภูมิลดต่ำลง
ทั้งนี้ ชาวกัมพูชาต่างให้ความสนใจ และนิยมซื้อเสื้อกันหนาว และผ้านวมเพื่อฝากลูกหลาน และสวมใส่ เนื่องจากพื้นที่ชายแดนด้านจังหวัดพระตะบอง และจังหวัดไพลินของประเทศกัมพูชา รวมถึงฝั่งไทยด้านอำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี เริ่มมีสภาพอากาศที่เย็นลง เพราะเป็นพื้นที่ติดเชิงเขา และมีหมอกปกคลุมหนาแน่น
โดยบรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างพากันนำเสื้อกันหนาว และผ้านวมออกขายอย่างคึกคักเช่นกัน
นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมว่า เฉพาะในพื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ระยะนี้มีหมอกปกคลุมหนาแน่นทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องเปิดไฟหน้ารถเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และต้องใช้ความระมัดวังในการขับขี่เนื่องจากทัศน์วิสัยในการมองไม่ชัดเจน
อากาศเย็น ปชช.แห่จับปูแป้น และปูไข่
จากสภาพอากาศหนาวเย็นลง ยังทำให้ปูแป้น และปูไข่ขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ บริเวณป่าชายเลนลอยน้ำออกมาตามคลองธรรมชาติจำนวนมาก ซึ่งผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า บรรยากาศในพื้นที่ตำบลบางกะจะ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ในขณะนี้คึกคักไม่แพ้เขตแนวชายแดน เนื่องจากมีชาวบ้านจำนวนมากต่างพากันนำอุปกรณ์ออกมาตักปูแป้นที่ลอยมากับกระแสน้ำ ซึ่งชาวบ้านบางรายสามารถตักปูแป้นได้คืนละ 10-20 กิโลกรัมต่อวัน และหากส่งขายให้แก่พ่อค้าที่มารับซื้อ ตัวเมียจะมีราคากิโลกรัมละ 40-60 บาท เนื่องจากได้รับความนิยม แต่ถ้าหากนำไปขายในตลาดจะมีราคากิโลกรัมละเกือบ 200 บาทเลยทีเดียว
นอกเหนือจากการตักปูแป้นแล้ว ชาวบ้านบางส่วนยังถือโอกาสตักปูไข่ขนาดใหญ่ คืนละไม่ต่ำกว่า 5- 10 กิโลกรัม สร้างรายได้จากกาขายกิโลกรัมละกว่า 200 บาท ได้เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 2 พันบาทต่อคืน ขณะที่ปูไข่กล้ามใหญ่จะมีราคาขายถึงกิโลกรัมละ 500 บาท
ทั้งนี้ ชาวบ้านที่มาตักปูส่วนใหญ่บอกว่า เป็นผลมาจากความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนในพื้นที่ ซึ่งเป็นแหล่งอาศัย และวางไข่ของเหล่าปูแป้น ซึ่งเมื่อเกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุนสูง ทำให้น้ำขึ้นเต็มที่ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า น้ำโต ก็จะทำให้ปูแป้นทั้งตัวเล็ก และใหญ่ลอยตามกระแสน้ำ ซึ่งส่วนหนึ่งจะมีการผสมพันธุ์ และวางไข่ไปในตัว ส่งผลในช่วงนี้จะมีปูลอยมาตามลำคลองธรรมชาติเป็นจำนวนมาก
โดยชาวบ้านที่ทราบข่าว ต่างมานั่งเฝ้าคอยเพื่อรอตักปู โดยคาดว่าหากน้ำทะเลยังคงหนุนอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้ปูแป้น และปูไข่ออกมาให้ชาวบ้านได้ตักกันตลอดทั้งสัปดาห์
